นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) และตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ทำกำไรงวด 6 เดือนแรกปี 53 รวม 292,981 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34 % จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมียอดขายรวม 3,618,414 ล้านบาท
กลุ่มอุตสาหกรรม 3 อันดับแรกที่มีกำไรสูงสุด คือ กลุ่มทรัพยากร กลุ่มธุรกิจการเงิน และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง โดยมี PTT PTTEP SCC BBL และ SCB เป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีกำไรสุทธิสูงสุด 5 อันดับแรก
สำหรับบริษัทจดทะเบียนที่รายงานงบการเงินงวด 6 เดือนแรกของปี 53 มีจำนวน 534 บริษัท หรือ 94%ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด 566 บริษัท (รวมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ 27 กองทุน) โดยมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นทุกกลุ่มอุตสาหกรรม รวมกำไรสุทธิงวด 6 เดือน จำนวน 292,981 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งมีกำไรรวม 218,240 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 34% ขณะที่งวดไตรมาส 2/53 มีกำไรสุทธิรวม 129,666 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) ที่ส่งงบการเงินงวด 6 เดือนของปี 53 จำนวน 472 บริษัท (จากทั้งหมด 503 บริษัท รวมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ 27 กองทุน) มีกำไรสุทธิรวม 291,745 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น โดยมียอดขายรวม 3,591,978 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% และมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน
ผลประกอบการของบริษัทใน 3 กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีกำไรสูงสุด ได้แก่ กลุ่มทรัพยากร กลุ่มธุรกิจการเงิน และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ที่มี กำไรสุทธิ 90,531 ล้านบาท 61,887 ล้านบาท และ 39,769 ล้านบาทตามลำดับ
"ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน ในตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ช่วงครึ่งปีแรกของปี 53 มีกำไรสุทธิเติบโตขึ้นอย่างชัดเจนถึง 34% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนเป็นผลจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นถึง 24% แสดงถึงการเติบโตของภาคธุรกิจที่ขยายตัวสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เพิ่มขึ้นด้วย " นายจรัมพรกล่าว
ส่วนบริษัทในกลุ่ม SET100 มีกำไรสุทธิงวด 6 เดือน 248,842 ล้านบาท คิดเป็น 85% ของกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนรวม เพิ่มขึ้น 26% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมียอดขายเพิ่มขึ้น 25% และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น 85% และมีภาระดอกเบี้ยจ่ายลดลง 5% ในขณะที่ต้นทุนขายเพิ่มขึ้น 28% ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเล็กน้อยจาก 20% เป็น 18 %
สำหรับบริษัทจดทะเบียนมีกำไรสุทธิสูงสุด 5 อันดับแรก คือ บมจ. ปตท. (PTT) บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) บมจ. ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) บมจ. ธนาคารกรุงเทพ (BBL) และ บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์(SCB)
ทั้งนี้ ภาพรวมของผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียน 8 กลุ่มอุตสาหกรรม (Industry Group) (ที่นำส่งงบการเงินและไม่รวมบริษัทในกลุ่ม NC และ NPG) งวด 6 เดือน สิ้นสุด 30 มิ.ย.2553 จำนวนรวม 449 บริษัท มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นทุกกลุ่ม รวม 290,126 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 34%
ผลการดำเนินงาน เรียงลำดับตามกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีกำไรสุทธิสูงสุด ดังนี้ 1. กลุ่มทรัพยากร 2.กลุ่มธุรกิจการเงิน 3. กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง 4. กลุ่มบริการ 5. กลุ่มเทคโนโลยี 6. กลุ่มวัตถุดิบสินค้าอุตสาหกรรม 7. กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร 8. กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค