ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในเอเชียร่วงลงเช้าวันนี้ (20 ส.ค.) หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่แล้วพุ่งสูงขึ้น ขณะที่ดัชนีกิจกรรมด้านการผลิตในเขตมิด-แอตแลนติกหดตัวลงสู่ระดับ -7.7 จุดในเดือนส.ค. ส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจ
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 9,239.36 จุด ลดลง 123.32 จุด ส่วนดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,929.72 จุด ลบ 142.74 จุด ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนลบ 0.41% แตะ 2,677.02 จุด ขณะที่ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นโซลเปิดวันนี้ที่ 1,769.02 จุด ลดลง 10.62 จุด สำหรับดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,915.16 ลบ 13.78 จุด ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 4,466.40 จุด ลดลง 12.60 จุด ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,390.21 ลบ 2.35 จุด และดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,936.02 ลบ 10.75 จุด
ดัชนี MSCI Asia Pacific อ่อนตัวลง 0.9% แตะ 119.08 จุด เมื่อเวลา 9.41 น.ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงโตเกียว
หุ้นนิสสัน มอเตอร์ ร่วง 2.2% ในตลาดหุ้นโตเกียว ส่วนหุ้นชาร์ป ร่วง 2.2% หลังจากที่นสพ.นิกเกอิ อิงลิช นิวส์ รายงานว่า บริษัทจะลดการผลิตจอแอลซีดี ส่วนหุ้นบิลลาบอง อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วง 10% ในตลาดหุ้นออสเตรเลีย หลังจากที่บริษัทได้รายงานตัวเลขกำไรที่สวนทางคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐกำลังชะลอตัวลง โดยเศรษฐกิจอยู่ในช่วงสำคัญที่อาจจะอ่อนตัวลงหรือปรับตัวขึ้นได้
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่แล้ว พุ่งขึ้น 12,000 ราย สู่ระดับ 500,000 ราย ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2552 ที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานพุ่งแตะระดับ 500,000 คน สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทสหรัฐยังคงลดการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจซบเซา
ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ พุ่งขึ้น 8,000 ราย แตะระดับ 482,500 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2552
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียรายงานว่า ดัชนีกิจกรรมด้านการผลิตในเขตมิด-แอตแลนติกหดตัวลงสู่ระดับ -7.7 จุดในเดือนส.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะดีดตัวขึ้นแตะระดับ +7.0 จุด และหดตัวลงหลังจากเคลื่อนไหวที่ระดับ +5.1 จุดในเดือนก.ค.