หุ้น QH บวก 5.13% มาอยู่ที่ 2.46 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท มูลค่าซื้อขาย 439.49 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.21 น. โดยเปิดตลาดที่ 2.38 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 2.46 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 2.38 บาท
นางสุวรรณา พุทธประสาท รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์(QH)กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"เช้าวันนี้ว่า กำไรสุทธิในปีนี้มีโอกาสที่จะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างที่โบรกเกอร์บางรายประเมินว่าจะเติบโต 22% เป็น 2.2 พันล้านบาท จากเดิม 1.8 พันล้านบาท เพราะเพียงครึ่งปีแรกก็มีกำไรแล้ว 1.3 พันล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับกำไรทั้งปีของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.5 พันล้านบาท
เนื่องจากในปีนี้บริษัทรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมีเนียมค่อนข้างมาก ขณะที่ยอดขายจากโครงการแนวราบมีแนวโน้มดีกว่าปี 52 จากการเร่งเปิดขายโครงการใหม่ในช่วงครึ่งหลังของปีและการเปิดขายโครงการของบริษัทลูกภายใต้แบรนด์ใหม่“The Trust"ที่มีราคาต่ำกว่ายูนิตละ 3 ล้านบาท เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าระดับล่างมีฐานลูกค้าขนาดใหญ่
ขณะเดียวกันในส่วนของยอดรับรู้รายได้ในปีนี้คาดว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% จากปีก่อน ซึ่งมีความเป็นไปได้สูง จากก่อนหน้านี้ที่บริษัทมีความกังวลเพราะจากผลกระทบจากสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้น แต่ปัจจุบันนี้ถือว่าสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ ยอดขายก็เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ในครึ่งปีหลังบริษัทจะเปิดโครงการใหม่จำนวน 14 โครงการ มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งมากกว่าครึ่งปีแรก จากทั้งปีมีแผนเปิดโครงการทั้งสิ้น 21 โครงการ
ส่วนสาเหตุที่ราคาหุ้น QH วันนี้พุ่งแรงงน่าจะเกิดการที่นักลงทุนมองเห็นศักยภาพการเติบโตของรายได้และกำไรสุทธิในปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตกว่าปีก่อน โดยเฉพาะในส่วนของกำไรสุทธิ ขณะที่ราคาหุ้นบริษัทยังมีระดับราคาที่ต่ำเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นในกลุ่มภายใต้มาร์เก็ตแคปประมาณ 2 หมื่นล้านบาท
ด้านบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก แนะ"ซื้อ"สำหรับการลงทุนระยะยาวหุ้น QH แม้ว่ากำไรสุทธิ 2Q53 แผ่วลงแต่คาดทั้งปียังเติบโตต่อเนื่อง โดยปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 53 เพิ่มขึ้น 22% ความคืบหน้าการเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมคิวหลังสวนมูลค่ารวม 3.5 พันล้านบาท จำนวนทั้งหมด 177 หน่วยซึ่งขายได้แล้วประมาณ 15 หน่วย ผู้บริหารคาดว่าจะถึงปลายปี 53 มีโอกาสขายได้ 30 หน่วย ทำให้เราปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้จากคอนโดมิเนียมที่จะรับรู้ในปีนี้เพิ่มจาก 2.5 พันล้านบาทเป็น 2.94 พันล้านบาท
พร้อมกันนั้นเราคาดยอดขายจากโครงการแนวราบมีแนวโน้มดีกว่าปี 52 จากการเร่งเปิดขายโครงการใหม่ในช่วงครึ่งหลังของปีและการเปิดขายโครงการของบริษัทลูกภายใต้แบรนด์ใหม่ “The Trust" ในผลิตสินค้าราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าระดับล่างมีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ ส่งผลให้ประมาณการกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 22% เป็น 2.2 พันล้านบาท(เดิม 1.8 พันล้านบาท) ซึ่งเติบโต 30%YoY ทั้งนี้กำไรสุทธิครึ่งแรกของปี 53 ที่ 1,387 ล้านบาทคิดเป็น 62% ของประมาณการกำไรสุทธิใหม่ทั้งปี
บล.โกลเบล็ก ปรับเพิ่มราคาเหมาะสมหุ้น QH จาก 2.70 บาทเป็น 3.24 บาท สำหรับปี 53 จากประมาณการกำไรสุทธิใหม่ทำให้ราคาเหมาะสมซึ่งอิง Prospect PER ที่ระดับ 12 เท่า เพิ่มขึ้นเป็น 3.24 บาท จากเดิม 2.70 บาท ยังมี upside ได้อีกจากราคาตลาด ประกอบกับการถือหุ้นมีอัตราผลตอบแทนเงินปันผล 5-6% ต่อปี