นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) เปิดเผยว่า บริษัทอาจจะพิจารณาเปิดทางให้พันธมิตรต่างชาติเข้ามาถือหุ้นในบริษัท ทรูมูฟ หากได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจ 3G เนื่องจากมีความจำเป็นที่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก โดยบริษัทเห็นว่าสัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติควรอยู่ระดับ 25% แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับการประเมินวงเงินทุนที่จำเป็นต้องใช้ด้วย
ทั้งนี้ กลุ่มทรูได้เข้ารับซองเอกสารประมูลใบอนุญาต 3G ในนามทรูมฟ และ บริษัท เอส แอนด์ เค ไวร์เลส จำกัด ซึ่งบริษัท มีแผนเปลี่ยนชื่อเป็น"เรียลมูฟ"เพื่อให้สอดคล้องกับ ทรูมูฟ อีกทั้ง เอส แอนด์ เคฯ เป็นชื่อที่ใกล้เคียงกับผู้ให้บริการด้านโทคมนาคมของเกาหลี จึงกังกวลว่าอาจทำให้นักลงทุนเข้าใจผิดได้
นายศภชัย ให้ความเห็นว่า ร่างประกาศว่าด้วยการกำหนดข้อห้ามการกระทำที่มีลักษณะเป็นการครอบงำกิจการโดยตนค่างด้าวไม่ได้ส่งผลดีต่อกลุ่ม TRUE อย่างที่มีผู้ตั้งข้อสังเกต แต่กลับมองว่าเป็นเรื่องที่เสียเปรียบ เพราะผู้ประกอบการรายใหญ่ทั้งสองมีผู้ถือหุ้นต่างประเทศอยู่แล้ว ทั้งการถือทางตรงและทางอ้อม และมีอำนาจการบริหาร ขณะที่ร่างประกาศดังกล่าวอาจทำให้ TRUE หาผู้ร่วมทุนต่างชาติได้ยากขึ้น
สำหรับผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2/53 ที่ TRUE ประสบขาดทุน เนื่องจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายพิเศษจากการีไฟแนนซ์หุ้นกู้ทรูวิชั่นส์ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายครั้งเดียว และยังได้รับผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่า อย่างไรก็ตาม ในครึ่งปีหลัง บริษัทก็จะพยายามให้ผลประกอบการเป็นไปตามเป้าหมาย คือรายได้โต 3-5% ส่วนกำไรสุทธิ ยังเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดา เพราะบริษัทรับผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่า
ส่วนราคาหุ้น TRUE ที่ปรับเพิ่มขึ้นมากในระยะนี้ ขณะนี้เชื่อว่าเป็นการเก็งกำไรของนักลงทุนที่มองว่าบริษัทมีความได้เปรียบการแข่งขันหาก 3G เพราะมีกลยุทธ์คอนเวอเจนซ์ที่สอดคล้องกับ 3G และยืนยันบริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปรับตัวขึ้นมาของราคา หรือสร้างราคาหุ้นแต่อย่างใด