ขณะที่ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) โต้ไม่ได้รับประโยชน์จากร่างประกาศดังกล่าว และ คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ระบุ กฎหมายไทยให้สิทธิกับคนต่างด้าวมากกว่าประเทศอื่น
ในการทำประชาพิจารณ์ร่างประกาศฉบับดังกล่าวในวันนี้ ที่ประชุมส่วนใหญ่เห็นด้วยที่กำหนดเพดานการถือครองหุ้นของต่างชาติที่ 49% ซึ่งรวมไปถึงการถือหุ้นในลักษณะนอมินี แต่คัดค้านการกำหนดการกระทำหรือพฤติกรรมที่มัลักษณะเป็นการครอบงำกิจการโดยคนต่างด้าวที่มองว่าไม่สมเหตุสมผล
อนึ่ง ร่างประกาศนี้จะมีผลบังคับใช้กับผู้ที่ได้รับใบอนุญาต 3G และผู้ประกอบการปัจจุบันด้วย
นายนฤพนธ์ รัตนสมาหาร ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานรัฐกิจสัมพันธ์ DTAC กล่าวในที่ประชุมประชาพิจารณ์ว่า มีข้อสังสัยว่าเหตุใด กทช.กำหนดให้ผู้ลงทุนต่างประเทศไม่มีสิทธิเป็นผู้บริหาร ทั้งที่คนเหล่านี้เป็นผู้นำเงินมาลงทุน มองว่าเป็นการออกกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดเกินไป และเห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องออกร่างประกาศดังกล่าว เพราะสวนทางกับภาครัฐมีการส่งเสริมการลงทุนต่างประเทศ ฉะนั้น กทช.จึงควรปรึกษากับรัฐบาลให้ดีก่อน
นายนฤพนธ์ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าเหตุผลที่แท้จริงในการออกร่างประกาศนี้คืออะไร แต่สงสัยว่าเหตุใดจึงมาออกในช่วงนี้ที่กำลังจะมีการเปิดประมูลใบอนุญาต 3G เหตุผลที่อ้างว่าทำเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของคนไทย ทำให้เชื่อได้ว่าการออกร่างประกาศนี้จะเอื้อกับบริษัทในกลุ่มทรู ซึ่งเป็นบริษัทไทย
"ท่านเห็นว่า กลุ่มเทเลนอร์ เป็นนักลงทุน terorist หรือท่านมองว่านักลงทุนต่างชาติอาจจะเป็นภัย ท่านจึงมีกฎเกณฑ์ห้ามมีส่วนร่วมในการบริหารงาน...กทช.มีแนวคิดแง่ลบ มีความเชื่อว่ามีการครอบงำกกิจการ"นายนฤพนธ์ กล่าว
ขณะเดียวกัน สถานฑูตนอร์เวย์ได้ส่งจดหมายมายัง กทช. แสดงความเห็นเกี่ยวกับร่างประกาศดังกล่าวว่า การเข้ามาลงทุนของคนนอร์เวย์ไม่ได้มีเจตนาร้าย แต่กลับนำเทคโนโลยีและส่งเงินเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ควรได้รับการปฏฺบัติที่เป็นธรรม ไม่เอื้อประโยชน์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ด้านนายสมประสงค์ บุญยะชัย รองประธานกรรมการ ADVANC กล่าวว่า โดยรวมเห็นด้วยที่กทช.จะมีการออกประกาศดังกล่าวเพื่อให้เกิดความชัดเจน แต่กฎเกณฑ์ที่ออกมาต้องมีความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย นอกจากนั้น รายละเอียดของร่างประกาศดังกล่าวขณะนี้ยังกว้างมากและไม่มีความชัดเจน ดังนั้น กทช.ควรให้ความสำคัญเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และจะกระทบต่อทั้งผู้ประกอบการทั้งรายเดิมและรายใหม่
ขณะที่ ตัวแทนจาก TRUE กล่าวว่า ร่างประกาศดังกล่าวไม่ได้เอื้อประโยชน์กับ TRUE เพียงฝ่ายเดียว เพราะในอนาคต บริษัทก็มีความจำเป็นต้องระดมทุนและก็ต้องหาพันธมิตรต่างชาติ ซึ่งก็ต้องเข้าหลักเกณฑ์ตามร่างประกาศนี้อยู่ด้วย นอกจากนี้ 2 โอปอเรเตอร์รายใหญ่ก็ยังคงมีส่นนแบ่งตลาดเช่นเดิม
อย่างไรก็ตี หากผู้ถือห้นต่างชาติถือเกิน 49% ในส่วนที่เกินก็สามารถถือในรูป NVDR ได้ แต่ไม่มีสิทธิออกเสียงเท่านั้น ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ถือว่า NVDR เป็นผู้ลงทุนไทย
ส่วนตัวแทนทั้งจาก บมจ.ทีโอที และ บมจ. กสท โทรคมนาคม ซึ่งอยู่ในฐานะเจ้าของสัญญาสัปมทานร่วมการงาน ไม่เห็นด้วยที่จะต้องทำหน้าที่รับรองหรือรายงานสถานภาพของการถือครองหุ้นของผู้ได้รับอนุญาต และเสนอให้ กทช.รับเรื่องรายงานตรงจากบริษัทเอง
นายสุธรรม อยู่ในธรรม กรรมการ กทช. กล่าวว่า การออกร่างประกาศดังกล่าวเพื่อป้องกันการครอบงำกิจการของคนต่างด้าว รวมทั้งการมีอำนาจเหนือตลาด และความมั่นคง ซึ่งการกำหนดเพดานให้คนต่างชาติถือครองหุ้นได้ถึง 49% เป็นไปตามพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว โดยเป็นข้อกำหนดที่สูงกว่าข้อตกลงขององค์การค้าโลก (WTO)กำหนดไว้ที่ 20% จึงถือว่าไทยเปิดกว้างมากกว่าประเทศอื่น และ กทช.ให้ความสำคัญมาก เพราะว่าธุรกิจโทรคมนาคมมีอนวโน้มเติบโตสูง โดยปัจจุบันมีผู้ใช้ถึง 85 ล้านเลขหมายแล้ว อย่างไรก็ตามหลังจาก กทช.ได้รับฟังความห็นหลายฝ่ายจะนำกลับไปพิจารณาในคณะกรรมการกทช.ต่อไป