นายสมยศ ฐิติสุริยารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE)คาดว่า ยอดขายถ่านหินในครึ่งปีหลังจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับครึ่งปีแรกที่ทำยอดขายได้ 6.4 แสนตัน คิดเป็นรายได้ 1,389 ล้านบาท หรืออาจทำได้มากกว่าเล็กน้อย โดยทั้งปีน่าจะได้ตามเป้าหมายยอดขายมากกว่า 1.2 ล้านตัน หรือคิดเป็น 2.5-2.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มียอดขาย 2.1 พันล้านบาท เนื่องจากความต้องการถ่านหินที่เพิ่มขึ้นและมีลูกค้ารายใหม่
สำหรับราคาถ่านหินครึ่งปีหลังคาดว่าจะทรงตัวหรือปรับตัวสูงขึ้นไม่เกิน 10% โดยอยู่ในช่วง 90-100 เหรียญสหรัฐ/ตัน และหากเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรปมีการฟื้นตัวมาก ราคาขายถ่านหินในตลาดโลกก็อาจปรับตัวขึ้นไปได้สูงถึง 110 เหรียญสหรัฐ/ตัน โดยในช่วงต้นปีราคาถ่านหินอยู่ที่ 65-70 เหรียญสหรัฐ/ตัน แต่ในไตรมาส 3/53 ราคาถ่านหินเริ่มอ่อนตัวลงเล็กน้อย ใกล้เคียงกับราคาในไตรมาส 2/53
ส่วนแผนการส่งออกถ่านหินไปประเทศจีนนั้น ในสัปดาห์หน้าผู้บริหารบริษัทจะเดินทางไปพบลูกค้า ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่จะได้รับคำสั่งซื้อและเริ่มทดลองส่งไปจำหน่ายได้ภายในไตรมาส 4/53 หรืออย่างช้าต้นปีหน้า 54 มูลค่าการส่งออกประมาณที่ 3-4 หมื่นตัน/เดือน โดยลูกค้าดังกล่าวต้องการซื้อเนื่องจากราคาถ่านหินของบริษัทมีราคาถูกและสามารถส่งมอบได้ตามกำหนดเวลา
"ตอนนี้เราคงมองการส่งออกถ่านหินที่ประเทศจีนแห่งเดียว เพราะแค่ตลาดจีนตลาดเดียวก็ใหญ่แล้ว ตลาดจีนมีแนวโน้มที่ดี เราคงเลือกมณฑลที่ติดทะเลเพื่อจะได้ขนส่งได้สะดวก โดยลูกค้าเป็นผู้ประกอบการที่โรงไฟฟ้ากับธุรกิจปูนซิเมนต์"นายสมยศ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนซื้อเหมืองถ่านหินในอนาคตเพื่อสร้างศักยภาพและความแข็งแกร่ง รวมทั้งการสร้างโรงคัดแยกถ่านหิน และ ท่าเรือใกล้คลังสินค้า ซึ่งจะช่วยในการลดขั้นตอนการทำงานสั้นลง และลดค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการต้นทุน คาดว่าจะสามารถก่อสร้างได้ภายในไตรมาส 4/ 53 และเปิดใช้ในเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 1/55 ซึ่งจะช่วยให้กำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นประมาณ 80-100 ล้านบาท