บมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) ปรับเป้ายอดขายปี 53 เพิ่มขึ้นเป็นเติบโตได้เกินกว่า 15% จากเดิมตั้งไว้ 10% และคาดว่ากำไรก็จะเติบโตได้มากกว่า 15% ในทิศทางเดียวกับรายได้ โดยในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 6 ตัวเพื่อผลักดันยอดขายให้ดีกว่าครึ่งปีแรกที่ทำได้ประมาณ 1 พันล้านบาท
นายบุญยง ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ SINGER กล่าวว่า บริษัทคาดว่ายอดขายในปีนี้จะเติบโตได้เกิน 15% จากปีก่อนที่มียอดขาย 1.9 พันล้านบาท ถือว่าสูงกว่าเป้าหมายที่เคยตั้งไว้เมื่อต้นปี โดยครึ่งปีแรกบริษัทยอดขายได้แล้ว 1,113 ล้านบาท และครึ่งปีหลังคาดว่ายอดขายจะมากกว่าครึ่งปีแรก เพราะบริษัทได้ออกสินค้าใหม่ 6 ตัวเข้าสู่ตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขาย
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้เฉลี่ย 10% ต่อเนื่องใน 3-4 ปีข้างหน้า
ขณะเดียวกันในส่วนของกำไรก็คาดว่าจะเติบโตในทิศทางเดียวกับยอดขาย โดยครึ่งปีแรกบริษัทมีกำไร 36.8 ล้านบาท และเชื่อว่าทั้งปีจะทำกำไรได้มากกว่าปีก่อน แต่ในส่วนของการล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ 92 ล้านบาท คงจะเห็นได้ไม่เกินปีหน้า เนื่องจากยังมีปัจจัยการเมืองที่ยังเป็นประเด็นกดดันในปีนี้ ถึงแม้ว่าบริษัทเชื่อว่าจะมีความสามารถที่จะล้างขาดทุนสะสม
"เดิมไม่เคยเอาเรื่องการเมืองมาเป็นปัจจัยเสี่ยง แต่พอเมื่อเกิดเรื่องเม.ย.-พ.ค.ทำให้เราต้องคิด เพราะตอนนี้ลูกค้าของเราที่ทำธุรกิจมีค่อนข้างสูง ส่วนพอมีกำไรจะจ่ายปันผลหรือไม่ ผมคงต้องขอดูผลประกอบการครึ่งปีหลังหรือครึ่งแรกของปีหน้าก่อน แต่ตอนนี้ถ้าได้เงินมาก็ต้องเอาไปใช้ลงทุน ก็ยอมรับว่าไม่ได้จ่ายมา 5 ปีแล้ว"นายบุญยง กล่าว
สำหรับครึ่งปีหลังคาดว่ายอดขายที่เติบโตขึ้นจะมาจากสินค้าใหม่ ได้แก่ โฮมเธียร์เตอร์ เครื่องซักผ้ารุ่นใหม่ ตู้แช่ เครื่องสูบน้ำ โทรทัศน์ LED และ ตู้เติมเงินมือถือรุ่นใหม่ โดยจะใช้งบการตลาดราว 100 ล้านบาท ซึ่งจะใช้ส่งเสริมการขายผ่านพนักงาน 80 ล้านบาท อีก 20 ล้านบาทจะใช้ในการโฆษณา
ครึ่งปีแรกยอดขายเครื่องปรับอากาศเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก โดยมียอดขาย 1.7 หมื่นเครื่อง แต่ช่วงครึ่งปีหลังคาดว่ายอดขายคงจะชะลอลงตามฤดูกาลปกติ แต่ก็จะมีสินค้าใหม่เข้ามาชดเชย โดยเฉพาะตู้เติมเงินมือถือในต่างจังหวัดมียอดขายเติบโตขึ้นมาก
นายยุญยง กล่าวว่า บริษัทยังเตรียมเปิดสาขาใหม่ 5 สาขาในครึ่งปีหลัง จากแผนทั้งปีที่จะขยายสาขา 10 สาขา ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวม 20 ล้านบาท จากปัจจุบันมีร้านค้า 180 สาขา