บจ.ตลาด mai พลิกฟื้นกว่า 80% โชว์กำไรรอบครึ่งแรกของปี 53

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 23, 2010 14:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียนในตลาด mai ประกาศผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 53 มีกำไรสุทธิรวม 1,236 ล้านบาท บริษัทที่มีผลกำไรมีถึง 50 บริษัท คิดเป็น 81% ของบริษัททั้งหมด ซึ่งเป็นสัดส่วนมากที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตการเงินโลกในปี 51 ที่ผ่านมา

บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai 62 บริษัท นำส่งงบการเงินงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.53 มีกำไรสุทธิรวม 1,236 ล้านบาท และมียอดขายรวม 26,436 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% และ 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามลำดับ ขณะที่ไตรมาส 2/53 มีกำไรสุทธิรวม 715 ล้านบาท ลดลง 9% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่มียอดขายรวมอยู่ที่ 13,299 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการ กลุ่มงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลท.และผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ mai เปิดเผยว่า แม้ว่าในช่วงไตรมาสที่สองของปีจะมีเหตุการณ์ความรุนแรงภายในประเทศ รวมทั้งปัญหามาบตาพุดที่ยังไม่คลี่คลาย แต่ภาพรวมบริษัทจดทะเบียนยังคงรักษาระดับของยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นเอาไว้ได้เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยบริษัทที่เน้นการส่งออกมีผลการดำเนินงานดีขึ้นอย่าง เห็นได้ชัด ขณะที่กลุ่มบริษัทที่มีรายได้หลักจากงานโครงการมีการชะลอหรือเลื่อนงาน ทำให้ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก

"จากวิกฤตการเงินโลกซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่กลางปี 51 พบว่า สัดส่วนจำนวนบริษัทที่ได้รับผลกระทบและมีผลขาดทุนมีแนวโน้มลดลง จากจุดสูงที่สุดในไตรมาส 4/51 ที่ 33% ของบริษัททั้งหมด ลดลงมาอยู่ที่ 19% ของบริษัททั้งหมดในไตรมาส 2/53 และยังเป็นระดับที่กลับไปใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดวิกฤต ซึ่งแสดงถึงสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่เด่นชัดขึ้น"นายชนิตร กล่าว

บริษัทที่สามารถพลิกจากขาดทุนในไตรมาส 2/52 กลับมากำไรในไตรมาส 2/53 มีถึง 8 บริษัทด้วยกัน ได้แก่ บมจ. ชูไก (CRANE) บมจ. เด็มโก้ (DEMCO) บมจ. อินเตอร์เนชั่นแนล รีเสริช คอร์ปอเรชั่น (IRCP) บมจ.ไทยฮา (KASET) บมจ. ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ (L&E) บมจ. พรพรหมเม็ททอล (PPM) บมจ. สตีล อินเตอร์เทค(STEEL) บมจ. ไทยบริการอุตสาหกรรมและวิศวกรรม (TIES)

นอกจากนี้ ในจำนวนบริษัทที่มีกำไรสุทธิ พบว่ามี 8 บริษัทที่ผลการดำเนินงานโดดเด่นในครึ่งปีแรกและในไตรมาส 2/53 โดยมีกำไรสุทธิ (ไม่รวมกำไรจากการขายเงินลงทุน) และยอดขาย เติบโตขึ้นจากช่วงก่อนหน้าและช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ บมจ. เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) บมจ. ไซเบอร์แพลนเน็ต อินเตอร์แอคทีฟ (CYBER) บมจ. อีเทอร์นิตี้ แกรนด์ โลจิสติคส์ (ETG) บมจ. แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ (HTECH) บมจ. เกียรติธนา ขนส่ง (KIAT) บมจ. มุ่งพัฒนา อินเตอร์แนชชั่นแนล (MOONG) บมจ. เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น (NBC) และ บมจ. ทาพาโก้ (TAPAC)

ทั้ง CYBER และ HTECH มีการเติบโตของกำไรสุทธิ และยอดขายในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2553 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนกว่าเท่าตัวอีกด้วย

ปัจจุบันมีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai 63 บริษัท ณ วันที่ 19 ส.ค.53 ดัชนี mai ปิดที่ระดับ 252.92 จุด มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม 49,172.61 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ