บมจ.อาปิโก ไฮเทค(AH)คาดว่า ยอดขายปี 53 จะทำได้ราว 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้นประมาณ 30% จากปี 52 ที่มียอดขาย 7 พันล้านบาท แต่ในแง่ของกำไรสุทธิปีนี้น่าจะเติบโตได้มากกว่ายอดขาย เนื่องจากยอดการผลิตรถยนต์ของไทยกลับมาเพิ่มสูงขึ้นเป็น 1.6 ล้านคัน จากปีก่อนมียอดผลิต 1 ล้านคัน
และในปีหน้าคาดว่ายอดผลิตรถยนต์จะเพิ่มขึ้นเป็น 1.7 ล้านคัน ซึ่งส่งผลดีต่อยอดขายในปี 54 ที่บริษัทได้ตั้งเป้าอัตราเติบโต 10%จากปีนี้ ประกอบกับ ได้รับการสนับสนุนจากโครงการผลิตรถยนต์อีโคคาร์และลูกค้าเดิมที่ยังมีคำสั่งซื้อต่อเนื่องด้วย
นายเย็บ ซูชวน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AH คาดว่า ยอดขายในครึ่งปีหลังคงจะเติบโตใกล้เคียงกับครึ่งแรกที่ผ่านมาที่มียอดขายอยู่ที่ 5.3 พันล้านบาท เนื่องจากมีกำลังการผลิตใกล้เคียงครึ่งปีแรกที่ใช้กำลังการผลิต 75% เพราะอุตสาหกรรมกลับมาสู่ภาวะปกติ จากก่อนหน้านี้ที่ปรับลดลงไป
แต่อย่างไรก็ตาม ยอดขายในครึ่งปีแรกปีนี้เติบโต 78% เมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปี 52 ที่มียอดขายอยู่ที่ 2.9 พันล้านบาท
แต่ในปี 54 จะเห็นการเติบโตที่เพิ่มขึ้นจากปีนี้ เพราะสัญญานการฟื้นตัวของผู้บริโภคที่กลับมามีความมั่นใจมากขึ้น และยอดส่งออกก็เติบโตดีขึ้น นอกจากนี้ ปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโตในปีหน้า คือการที่บริษัทมีออร์เดอร์ล่วงหน้าจากลูกค้าแล้วทั้งลูกค้ารายเดิมและรายใหม่ เนื่องจากจะมีการออกรถรุ่นใหม่ประมาณ 5 รุ่น ได้แก่ ค่ายนิสสัน มาสด้า อีซูซุ ฮอนด้า และฟอร์ด ซึ่งบริษัทสามารถรองรับการผลิตได้เพราพโรงงานที่อมตะสามารถยังมีที่ดินในการเพิ่มเครื่องจักรได้
จากการใช้กำลังการผลิตที่มากขึ้นส่งผลให้บริษัทอยู่ระว่างการมองหาการลงทุนใหม่ในอนาคต โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาการลงทุนในอินเดีย แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเห็นการลงทุนเมื่อใด ซึ่งถือว่านอกเหนือจากประเทศจีนที่ได้มีการเข้าไปซื้อที่ดินเพื่อก่อสร้างเป็นโรงงานแห่งใหม่เป็นของตัวเอง จากเดิมที่ใช้เช่าพื้นที่ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวม 200-300 ล้านบาทและโรงงานจะเสร็จสิ้นในปี 54
บริษัทคาดว่าหลังจากโรงงานดังกล่าวแล้วเสร็จ บริษัทจะมียอดขายจากประเทศจีน 2 เท่า จากปีนี้ที่มียอดขายจากจีนราว 800 ล้านบาท ซึ่งการตัดสินใจตั้งโรงงานในประเทศจีน เพราะต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า และเป็นการสร้างกำไรที่เพิ่มขึ้นในอนาคตด้วย
"ปีนี้คงไม่มีการลงทุนใหม่ ๆ เราค่อนข้างระมัดระวังการลงทุนให้รอบคอบก่อนที่เราจะทำ แม้ตอนนี้อุตสาหกรรมยานยนต์จะฟื้นตัวค่อนข้างมาก แต่เราก็ต้องไม่ประมาท เราคงเน้นที่การผลิตให้มีคุณภาพเพื่อออเดอร์ที่เพิ่มขึ้นในอนาคตและความแข็งแกร่งของบริษัทในอนาคต"นายเย็บ ชู ชวน กล่าว