บมจ.น้ำประปาไทย(TTW)เตรียมแผน 5 ปี (ปี 54-58)ขยายไปสู่ธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ได้แก่ พลังงานทางเลือกทั้งพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึงธุรกิจบำบัดน้ำเสีย เพื่อกระจายความเสี่ยงธุรกิจในอนาคต โดยเตรียมเสนอแผนต่อคณะกรรมการประมาณเปลายเดือน ต.ค.หรือ ต้น พ.ย.นี้
บริษัทมีแนวคิดปรับโครงสร้างรายได้ในช่วง 5 ปีข้างหน้าจากปัจจุบันที่พึ่งพิงธุรกิจน้ำประปาทั้ง 100% และมีผู้รับซื้อเพียงรายเดียวคือการประปาส่วนภูมิภาค(กปภ.) โดยมีแผนปรับลดรายได้ส่วนนี้เหลือ 60-65% ส่วนอีก 30-35% จะมาจากธุรกิจที่บริษัทลงทุนใหม่
แม้ว่าบริษัทจะพยายามเพิ่มการบริหารจัดการน้ำในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน แต่สัดส่วนรายได้เข้ามา 5% ของรายได้ ขณะเดียวกันการเพิ่มการบริหารจัดการน้ำตามนิคมอุตสาหกรรมยังไม่คืบหน้า เพราะนิคมอุตสาหกรรมส่วนใหญ่จะเป็นผู้จัดการระบบสาธารณูปโภคเอง
"ตอนนี้กำลังรวบรวมความคิดว่าเราจะขยายขอบเขตงานที่ผ่านมาน้ำหนักอยู่ที่น้ำประปา และต่อไปเราจะมุ่งไปธุรกิจบำบัดน้ำเสีย ธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะสอดคล้องกับภาพลักษณ์เราที่เวลาไปโรดโชว์เขาจะมองเราเป็นบริษัท Green Company เป็นบริษัทที่เกี่ยวกับธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม"นายสมโพธิ ศรีภูมิ กรรมการผู้จัดการ TTW ให้สัมภาษณ์ "อินโฟเควสท์"
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทได้วางกรอบเกี่ยวกับการจัดแหล่งเงินทุนว่าจะใช้แนวทางการเพิ่มทุนเป็นทางเลือกสุดท้าย
ปัจจุบัน บริษัทมีวงเงินหุ้นกู้เหลืออยู่อีก 3.1 พันล้านบาท หลังจากออกหุ้นกู้ไปแล้ว 7 พันล้านบาท และยังมีวงเงินกู้อีก 5 พันล้านบาท ที่มีต้นทุนการเงินประมาณ 4.3-4.4% ทั้งนี้ อัตราหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 1.2-1.3 เท่า วางนโยบาย D/E อยู่ที่ 2 เท่า ซึ่งยังมีความสามารถกู้ได้ นอกจากนี้บริษัท สิ้นมิ.ย. 53 มีกระแสเงินสดอยู่ 2.5 พันล้านบาท
ขณะเดียวกันศึกษาไปขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยได้นำเสนอไป 2-3 ประเทศแล้ว แต่คาดว่ายังยาก เพราะรัฐบาลส่วนใหญ่มักลงทุนสาธารณูปโภคประเภทสื่อสาร ขนส่ง และไฟฟ้า ก่อนน้ำประปา
*กำไรสุทธิปี 53 โตกว่า 50%
กรรมการผู้จัดการ TTW คาดว่า ในปี 53 กำไรสุทธิของบริษัทน่าจะไม่ต่ำกว่า 2 พันล้านบาท หรือเติบโตกว่า 50% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,593.6 ล้านบาท โดยในงวดครึ่งปีแรกบริษัททำกำไรสุทธิได้แล้ว 1,057 ล้านบาท ซึ่งเติบโต 49% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
เนื่องจากในปีนี้บริษัทไม่มีรายพิเศษเหมือนในปีก่อนที่มีรายจ่ายพิเศษ จำนวน 240 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากการค่าธรรมเนียมที่จ่ายคืนหนี้ก่อนถึงชำระ ซึ่งส่งผลดีให้บริษัทสามารถประหยัดดอกเบี้ยจ่ายได้ปีละ 40-50 ล้านบาท และจ่ายหนี้ให้กับบริษัท น้ำประปาปทุมธานี(PTW)เป็นบริษัทลูก โดยค่าใช้จ่ายด้งกล่าวเป็นค่าใข้จ่ายเกิดขึ้นครั้งเดียว
"ปีนี้เป็นปีที่เก็บเกี่ยว หลังจากปีที่แล้วเป้นที่ที่เราปัดกวาบ้าน เพราะฉะนั้นกำไรสุทธิปีนี้ไม่น่าจะต่ำกว่า 2 พันล้านบาท เพราะไม่มีรายการพิเศษแล้ว"นายสมโพธิ กล่าว
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทมีแนวทางจะจ่ายปันผลปีนี้ไม่ให้น้อยกว่าปีก่อนที่จ่าย 0.28 บาท/หุ้น โดยในงวด 6 เดือนแรก ประกาศจ่ายปันผลไปอัตราหุ้นละ 0.15 บาท
ส่วนรายได้ในปีนี้ นายสมโพธิ มั่นใจว่าจะเติบโตได้ตามเป้าหมาย 10% หรือเป็น 4.4 พันล้านบาท จากปีก่อนทำได้ 4 พันล้านบาท โดยงวดครึ่งปีแรกมีรายได้ 2.17 พันล้านบาท ปริมาณขายน้ำ 121 ล้านลูกบาศ์กเมตร และคาดว่าในครึ่งปีหลังจะมีปริมาณขายน้ำเพิ่มขึ้นมาที่ 123 ล้านลูกบาศ์กเมตร นอกเหนือจากการเติบโตของอัตราการใช้น้ำแล้วยังมาจากกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นที่จะเริ่ม 1 ก.ย.นี้อีก 1.2 แสนลูกบาศก์เมตร/วัน ทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 4.4 แสนลูกบาศ์กเมตร/วัน
สำหรับในปี 54 คาดว่ารายได้ของบริษัทจะเติบโต 8-9% จากปี 53 โดยอัตราการเติบโตที่ชะลอลงเนื่องจากฐานรายได้เติบโตขึ้น แต่ความต้องการน้ำประปายังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วน TTW ซึ่งจ่ายน้ำใน จ.สมุทรสาคร และ จ.นครปฐม ที่เป็นที่ตั้งโรงงานอุตสาหกรรม โดยเฉพาะธุรกิจอาหารอยู่มาก จึงมีโอกาสขยายตัวสูง
อย่างไรก็ตาม การเพิ่มกำลังการผลิตในปีนี้สามารถรองรับได้อีก 3-4 ปี แต่บริษัทก็ต้องเตรียมตัวสร้างโรงงานใหม่ไว้ล่วงหน้าเพราะใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปี ซึ่งจะเป็นการเพิ่มกำลังการผลิตทั้งของ TTW และ PTW ด้วย ฉะนั้นในช่วงนี้ จึงรวบรวมตัวเลขคาดการณ์อัตราเติบโตของการใช้น้ำในอนาคต คาดว่าจะสรุปแผนงานและเงินลงทุนได้ในปลายปี 54 หรือต้นปี 55
ทั้งนี้ การลงทุนใน PTW ก็ต้องคำนึงถึงสัญญาเพราะเป็นลักษณะ BTO ที่สร้างเสร็จแล้วต้องโอนไปให้เจ้าของสัญญาสัมทาน โดยสัญญาเหลือ 14 ปี ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า TTW อาจจะลงทุนแทน โดย PTW มีกำลังการผลิต 3.88 แสนลูกบาศก์เมตร/วัน รองรับพื้นที่จ.ปทุมธานี รังสิต ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มครัวเรือน