SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 892.53 จุด ลดลง 2.25 จุด(-0.25%)มูลค่าการซื้อขาย 20,029.46 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้ผันผวนเหวี่ยงตัวค่อนข้างรุนแรง จากการเทขายหุ้นกลุ่มพลังงานกดดันดัชนี ขณะที่ตลาดต่างประเทศร่วงจากความวิตกกังวลเศรษฐกิจอ่อนแอลง แนะนักลงทุนรอดูสถานการณ์ เลือกเก็งกำไรระยะสั้นรายตัวได้ คาดบ่ายเทรดหุ้นกลาง-เล็ก พร้อมให้แนวรับ 880 จุดแนวต้าน 895 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 892.53 จุด ลดลง2.25 จุด(-0.25%)มูลค่าการซื้อขาย 20,029.46 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนบวกในตอนเปิดตลาดแต่หลังจากนั้นไม่นานตลาดก็กลับมาในแดนลบตลอดช่วงเช้า โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 898.20 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 885.97 จุด
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้อ่อนตัวลงแม้จะพยายามยืนบวกในช่วงเปิดตลาด แต่ก็ยืนไม่อยู่และไม่สามารถผ่าน 900 จุดไปได้ เนื่องจากมีแรงเทขายในกลุ่ม ปตท.ทั้ง PTT PTTEP อย่างหนักกดดันตลาด โดยเฉพาะ PTTEP หลังมีข่าวทางการอินโดนีเซียจะเรียกค่าเสียหายจากกรณีมอนทารา เป็นประเด็นกดดันช่วงสั้น ขณะเดียวกันในกลุ่มรับเหมายังถูกขายทำกำไรตามกลุ่มพลังงานจึงยิ่งกดดันตลาด
ทั้งนี้ การที่ดัชนีตลาดไม่ผ่าน 900 จุด จึงเป็นเรื่องปกติที่จะมีแรงขายทำกำไรออกมาก่อน ประกอบกับ ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมากในสัปดาห์ก่อนด้วย และตลาดต่างประเทศที่กดดันจากความวิตกกังวลที่มากขึ้นในเรื่องของเศรษฐกิจที่ประเมินกันว่ามีทีท่าว่าจะอ่อนแอลง จึงทำให้นักลงทุนรอดูสถานการณ์ต่างๆ จึงทำให้การลงทุนเป็นลักษณะเก็งกำไรระยะสั้น
อย่างไรก็ตาม การที่ตลาดมีความผันผวน โดยสามารถดีดกลับมาได้บ้างทำให้ติดลบน้อยลงนั้นได้รับแรงหนุนจากการประชุม กนง.ในวันพรุ่งนี้คาดว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% รวมทั้ง Fund Flow ยังช่วยพยุงไม่ให้ลงแรง แม้การซื้อจะน้อยลงไปบ้าง
ส่วนแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้มองว่าตลาดยังคงมีความผันผวน และอาจเห็นการเก็งกำไรมากขึ้น โดยเฉพาะหุ้นขนาดกลาง-เล็ก นักลงทุนควรจะใช้ความระมัดระวัง
นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ฟินันเซียไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีแรงขายทำกำไรออกมาจากหุ้นที่มีการเก็งกำไรมาก่อนหน้านี้ หลังจากที่เรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้มีผลออกมาชัดเจนขึ้น อย่างกลุ่มพลังงาน จากข่าวมาบตาพุด กลุ่มก่อสร้างจากข่าวประมูลรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนกลุ่มสื่อสารก็ยังคงต้องรอความคืบหน้าจากกทช.ในการประมูล 3G เดือนหน้า
"วันนี้หนักไปทางขายทำกำไร พอดีช่วงเช้าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียจะค่อนข้างผันผวนด้วยเดี๋ยวบวกเดี๋ยวลบ ของเราก็เลยหนักไปทางขายทำกำไร และพอดีกลุ่ม ปตท.เป็นกลุ่มตัวใหญ่ร่วงลงมาก็เลยสะเทือน และก็ยังมีส่วนของปตท.สผ ที่มีข่าวเรื่องอินโดฯเรียกร้องค่าเสียหายเพิ่มเติมก็เป็นหลายๆเรื่องที่เข้ามากระทบ" นายสมชาย กล่าว
มองว่าการที่ตลาดอ่อนตัวลงยังถือเป็นจังหวะในการเลือกหุ้นเข้าซื้อได้อยู่ เพราะภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังดี ประกอบกับเม็ดเงินจากต่างประเทศก็ไหลเข้าเอเชียและไทยอยู่ ถึงแม้ว่าจะมีชะลอบ้างในบางวัน
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,450.95 ล้านบาท ปิดที่ 261.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
TMB มูลค่าการซื้อขาย 1,435.63 ล้านบาท ปิดที่ 2.24 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,112.36 ล้านบาท ปิดที่ 145.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
CK มูลค่าการซื้อขาย 752.81 ล้านบาท ปิดที่ 7.85 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
BLAND มูลค่าการซื้อขาย 744.60 ล้านบาท ปิดที่ 0.84 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท