ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 133.96 จุด หลังยอดขายบ้านมือสองสหรัฐร่วงหนัก

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 25, 2010 06:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (24 ส.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 ปี ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าภาวะตกต่ำในตลาดอสังหาริมทรัพย์จะฉุดรั้งให้เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวช้าลงกว่าเดิม นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่นอันเนื่องมาจากการแข็งค่าของเงินเยน ยังส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กซบเซาลงด้วย ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงยอดขายบ้านใหม่และตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 133.96 จุด หรือ 1.32% ปิดที่ 10,040.45 จุด ดัชนี S&P 500 รูดลง 15.49 จุด หรือ 1.45% ปิดที่ 1,051.87 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 35.87 จุด หรือ 1.66% ปิดที่ 2,123.76 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 8.38 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 2,286 ต่อ 730 หุ้น

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงทันทีที่สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค.ร่วงลงหนักสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 27.2% จากเดือนมิ.ย. มาอยู่ที่ระดับ 3.83 ล้านยูนิตต่อปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2548 หรือในรอบ 15 ปี และร่วงลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 12% เพราะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐยังคงอยู่ในภาวะซบเซาเพราะผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง โดยหลักฐานล่าสุดคือดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนมิ.ย.ที่ร่วงลง 2.6% มาอยู่ที่ระดับ 75.7 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2544 จากเดือนพ.ค.ที่ระดับ 77.7 จุด และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4% เนื่องจากนโยบายการลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ซื้อบ้านหมดอายุลง ซึ่งส่งผลให้ดีมานด์การทำสัญญาในกลุ่มผู้ซื้อลดลงไปด้วย

ลอว์เรนซ์ ยุน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ NAR กล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ซบเซาลงเมื่อนโยบายกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์หมดอายุลง และการชะลอตัวของเศรษฐกิจยังส่งผลกระทบอย่างหนักต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ด้วย โดยจีดีพีไตรมาสสองของสหรัฐ ขยายตัวเพียง 2.4% ต่อปี ซึ่งชะลอตัวลงเมื่อทียบกับจีดีพีไตรมาสแรกที่ขยายตัว 3.7% และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัวในอัตรา 2.5% ต่อปี

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากกระแสความวิตกกังวลเรื่องทิศทางเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่กำลังถูกกระทบอย่างหนักจากการแข็งค่าของเงินเยน ขณะที่นายนาโอโตะ คัง นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และนายมาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ยังไม่ได้แสดงท่าทีใดๆว่าจะใช้มาตรการแทรกแซงตลาดเพื่อสกัดการแข็งค่าของเงินเยนในระยะนี้

ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง 2.2% ขณะที่หุ้นกลุ่มที่อ่อนไหวต่อแนวโน้มเศรษฐกิจร่วงลงหลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองร่วงลงอย่างหนัก โดยหุ้นโบอิ้งปิดร่วง 3.7% และดัชนีหุ้นกลุ่มสร้างบ้านดิ่งลง 1.1%

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค.และยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค. วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และเฟดสาขาชิคาโกจะเปิดเผยดัชนีการผลิตเขตมิดเวสต์เดือนก.ค.

ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2/2010 และรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ