นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เอเชียพลัส(ASP)คาดว่าปี 53 กำไรและรายได้ของบริษัทเติบโตกว่า 20% ซึ่งเป็นผลจากกำไรพอร์ตลงทุนของบริษัทยังอยู่ในระดับที่ดี โดยเฉพาะการลงทุนในหุ้น ประกอบกับ รายได้ธุรกิจหลักทรัพย์ปรับตัวดีขึ้นตามมูลค่าการซื้อขาย(วอลุ่ม)รวมของตลาดหลักทรัพย์ของไทยที่มีทิศทางที่ดีขึ้น
การลงทุนของบริษัทในตลาดหุ้นทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะพอร์ตลงทุนในประเทศสร้างผลตอบแทนในระดับสูง ขณะที่ต้นทุนของบริษัทต่ำมาก กำไรจากพอร์ตลงทุนในหุ้นปีนี้อย่างน้อยไม่น่าจะต่ำกว่า 400 ล้านบาทใกล้เคียงกับปีก่อน ขณะที่ยังมีการรับรู้รายได้จากเงินปันผลและกำไรจากหุ้นกู้ในประเทศ ขณะที่การลงทุนในต่างประเทศก็สร้างกำไรจากตราสารหนี้ประเภท structure note และพันธบัตรรัฐบาล
ทั้งนี้ ปัจจุบันพอร์ตลงทุนโดยรวมของบริษัทมีมูลค่าประมาณ 4 พันล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในหุ้น ซึ่งสามารถทำกำไรได้มาก
นายก้องเกียรติ กล่าวว่า บริษัทมีรายได้จากธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นและมีกำไรดีขึ้น เนื่องจากวอลุ่มโดยรวมที่ ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้มาอยู่ที่ระดับ 3 หมื่นล้านบาท และในปีนี้คาดว่าวอลุ่มเฉลี่ยของตลาดหุ้นน่าจะสูงกว่าปีก่อน ทำให้ธุรกิจหลักทรัพย์ส่วนใหญ่มีผลประกอบการทีดี
ในปีนี้บริษัทยังได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ ๆ ให้กับตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการเสริมรายได้ โดยครึ่งปีหลังคาดว่าจะมีการเสนอขายตราสารประเภทใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW) อีก 3 ตัว หลังจากครึ่งแรกออกไปแล้ว 2 ตัวอ้างอิงหุ้น PTT และ CPF โดย DW จะออกมาเพิ่มอาจจะอ้างอิงทั้งหุ้นเดิมและหุ้นใหม่ มูลค่ารวมประมาณ 100 ล้านบาท
ส่วนงานด้านวาณิชธนกิจนั้น นายก้องเกียรติ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทมีงานที่ปรึกษาทางการเงิน 19 ราย เป็นการออกและเสนอขายหุ้นครั้งแรก(IPO) 8 ราย, การเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนเป็นการทั่วไป(PO) 1 ราย, การควบรวมกิจการ(M&A) 3 ราย และงานที่ปรึกษาฯ 7 ราย