นายจักรกริช เจริญเมธาชัย รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โกลเบล็ก แนะนำกลยุทธ์การลงทุนระยะกลาง 6 เดือนถึง 1 ปีให้นักลงทุนลดพอร์ตถือหุ้นเพียง 30% ให้มีเงินสด 70% เพราะมองว่าตลาดหุ้นไทยอาจมีการพักฐานตามตลาดหุ้นเอเชียจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวลง ขณะที่ปัจจัยทางการเมืองยังกดดันตลาดหุ้นไทย
“ตอนนี้ขอให้ถือเงินสดรอ SET Index ปรับฐานแรงๆ คาดแนวรับอยู่ที่ 850-875 จุดเมื่อถึงแล้วค่อยเข้าไปซื้อหุ้น" นายจักรกริช กล่าว
หากตลาดหุ้นไทยพักฐานแล้วสามารถเข้าลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีอย่างกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากคาดว่าช่วงปลายปีจนถึงต้นปีหน้าสินเชื่อจะยังมีการขยายตัวดี โดยบล.โกลเบล็กแนะนำหุ้น SCB KBANK ส่วนหุ้นรับเหมาก่อสร้างแนะนำลงทุนหุ้น TTCL STEC CNT แต่ต้องรอให้ตลาดปรับฐานแรงก่อน
ส่วนกลยุทธ์ลงทุนระยะสั้นให้จับตาหุ้นขนาดเล็กที่ปรับตัวขึ้นแรงในช่วงที่ผ่านมาอย่างเช่นกลุ่มเทเลคอมที่รับรู้ประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากธุรกิจ 3G อาทิ JAS, SAMART, TRUE อสังหาริมทรัพย์บางตัวซึ่งราคาในปัจจุบันเต็มมูลค่าไปหมดแล้ว และยังมีหุ้นอีกหลายตัวที่ราคาขึ้นมาทะลุเป้าหมายเข้าสู่สัญญาณ Over Bought ซึ่งมีโอกาสลงแรงๆได้เสมอ สำหรับนักลงทุนมีโอกาสเล่นเก็งกำไรระยะสั้นไม่ควรถือหุ้นข้ามวัน
สำหรับหุ้นกลุ่มที่น่าลงทุนคือกลุ่มที่กำลังรอความหวังอย่างเหตุการณ์มาบตาพุดก็จะเป็นหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีอย่างเช่น PTT, SCC, PTTCH รวมถึงกรณีประมูลคลื่นความถี่ 3G แต่น่าลงทุนหุ้น JAS, TRUE มากกว่าหุ้นขนาดใหญ่อย่าง ADVANC, DTAC ซึ่งราคาคงไม่หวือหวาอีกแล้ว