ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจโลกอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งใหม่ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่เป็นระยะๆ โดยล่าสุดมีรายงานว่ายอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค.ของสหรัฐร่วงลงอย่างหนัก นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากข่าวที่ว่าสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของไอร์แลนด์
ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 46.55 จุด หรือ 0.9% ปิดที่ 5,109.40 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,070.94 - 5,168.46 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเป็นไปอย่างซบเซา หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค.ร่วงลง 12.4% มาอยู่ที่ระดับ 276,000 ยูนิตต่อปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กระทรวงพาณิชย์เริ่มรวบรวมข้อมูลยอดการขายบ้านในปี 2506 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 330,000 ยูนิตต่อปี จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 315,000 ยูนิตต่อปี
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากเอสแอนด์พีประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของไอร์แลนด์ลงสู่ระดับ AA- จากระดับ AA และให้แนวโน้มเป็นลบ โดยเอสแอนด์พีระบุว่า งบประมาณการใช้จ่ายในการสนับสนุนภาคการเงินที่อยู่ในระดับสูงอาจส่งผลกระทบต่อระบบการคลังและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
เอสแอนด์พีกล่าวว่า งบประมาณการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจะทำให้สถานะการคลังของรัฐบาลไอร์แลนด์อ่อนแอลงในระยะกลาง โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลอัดฉีดเงินทุนงวดใหม่ให้กับธนาคารแองโกล ไอริช แบงก์ คอร์ป เมื่อไม่นานมานี้ อาจส่งผลให้หนี้สาธารณะของรัฐบาลไอร์แลนด์พุ่งขึ้นเกือบแตะ 113% ของจีดีพีในปี 2555 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มประเทศในสหภาพยุโรป (อียู) ถึง 1.5 เท่า
หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ในกลุ่มเหมืองแร่ ร่วงลง 2% หลังจากเจ้าหน้าที่บีเอชพี บิลลิตัน ได้ออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทด้วย เพราะจีนเป็นลูกค้ารายใหญ่สุดของบีเอชพี บิลลิตัน
ส่วนหุ้นริโอทินโตปิดร่วง 1.8% หลังจากราคาทองแดงและนิกเกิลในตลาดลอนดอนร่วงลง ส่วนหุ้นทุลโล ออยล์ ในกลุ่มพลังงาน ร่วงลง 4.6%