บทวิเคราะห์ บล.ธนชาต ระบุว่า บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP)ได้เปิดเผยผ่านการประชุมผ่านทางโทรศัพท์กับนักวิเคราะห์เพื่อชี้แจงข่าวที่รัฐบาลอินโดนีเซียเตรียมฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายจำนวน US$780m จากการรั่วไหลของน้ำมันที่แหล่งมอนทาราว่า บริษัทฯ ยืนยันความเชื่อว่าความเสียหายเกิดขึ้นในวงจำกัดและไม่น่าจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อทั้งชายฝั่งของอินโดนีเซีย และออสเตรเลีย
ทั้งนี้ PTTEP ได้พบปะกับผู้แทนอินโดนีเซียหลายครั้ง โดยมีการประชุมล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วและไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับพื้นที่ที่น้ำมันรั่วไปถึงแสดงในที่ประชุม นอกจากนี้ PTTEP ยังอ้างอิงถึงรายงานของ Australian Western Coast ซึ่งระบุว่าไม่มีน้ำมันของมอนทารารั่วไหลมาใกล้ชายฝั่ง
อย่างไรก็ตาม การเรียกร้องค่าเสียหายจะต้องร้องขอต่อศาลออสเตรเลีย เนื่องจาก PTTER Australasia อยู่ที่ออสเตรเลีย ซึ่งหากมีการดำเนินกระบวนการทางศาล ก็จะกินเวลาค่อนข้างนาน
บล.ธนชาต ระบุอีกว่า เรามีความมั่นใจมากขึ้นว่าหากมีการเรียกร้องใดๆ เกิดขึ้น ก็ไม่น่าจะเป็นจำนวนที่มากมายนัก ซึ่งผลกระทบดังกล่าวจะทำให้มูลค่า DCF ของบริษัทฯ ลดลง 5% (ที่ US$780m เท่ากับ 5% ของมูลค่า DCF ของ PTTEP) เนื่องจาก PTTEP เชื่อในหลักฐานของบริษัทฯ อย่างมาก จึงยังไม่ตั้งสำรอง นอกจากนี้ PTTEP ยังได้รับสัมปทานเพิ่มเติมจากทั้งอินโดนีเซีย และออสเตรเลีย แม้หลังจากมีอุบัติเหตุที่มอนทาราเกิดขึ้นแล้วก็ตาม
แต่คาดว่าข่าวจากทางด้านอินโดนีเซียจะเข้ามายังตลาดอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นราคาหุ้นของ PTTEP จึงน่าจะยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันอยู่ต่อเนื่อง ขณะที่สองปัจจัยหลักที่จะช่วยปลดปล่อยหุ้นให้หลุดจากแรงกดดัน คือ ข้อสรุปจากงานการสอบสวนอุบัติเหตุที่มอนทาราโดยรัฐบาลออสเตรเลีย ซึ่ง PTTEP คาดว่าจะออกมาในเชิงบวก และ ผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งดำเนินการร่วมกับรัฐบาลออสเตรเลีย