นายสุพัฒน์ ศรีธนาธร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสด้านการตลาด บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร(CPF) เปิดเผยว่า CPF ส่งผลิตภัณฑ์อาหารว่างพร้อมรับประทาน(ready to eat)ตัวใหม่"ไก่ย่างจิ้มแจ่ว"ลงตลาดชิงส่วนแบ่งอาหารว่างกลุ่มเนื้อไก่เพิ่มขึ้นเป็น 65% ภายในปลายปีนี้ จากปัจจุบันอยู่ที่ 61% ขณะที่คาดว่ายอดขายในปีนี้จะเติบโต 15% สูงกว่าภาพรวมที่เติบโตราว 10%
การเปิดตัว"ไก่ย่างจิ้มแจ่ว"ได้รับการตอบรับอย่างดี เพราะเป็นสินค้าอาหารพร้อมรับประทานที่ผลิตจากเนื้อไก่ตัวแรกที่รสชาดจัดจ้านแบบไทย โดยเฉพาะต่างจังหวัดทำยอดขายได้ดี ซึ่งทาง CPF ก็จะจัดเร่งจัดโปรโมชั่นเพื่อส่งเสริมการขาย โดยทุ่มงบโฆษณา 10 ล้านบาท
"ในปีนี้บริษัทสินค้ากลุ่มไก่คงจะไม่มีออกมาแล้ว แต่จะไปออกในช่วงไตรมาส 1 ปีหน้า แต่ช่วงที่เหลือในปีนี้จะจัดโปรโมชั่น ณ จุดขายมากกว่า ที่เหลือเป็นแคมเปญลดราคาและพรีเมียมแถม ซึ่งปัจจุบันคนกินไก่มากที่สุดในกลุ่มเมนูหาอาหารว่าง"นายสุพัฒน์ กล่าว
นายสุพัฒน์ กล่าวอีกว่า บริษัทคาดว่ายอดขายอาหาร ready to eat ช่วงครึ่งหลังของปีนี้น่าจะเติบโตได้ใกล้เคียงกับครึ่งปีแรกที่เติบโต 15% ซึ่งจะทำให้ทั้งปีมีอัตราเติบโตได้ตามเป้าหมาย 15% เช่นกัน โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลังไม่มีประเด็นเรื่องสถานการณ์รุนแรงทางการเมือง ประกอบกับช่วงไตรมาส 4 ปกติจะเป็นฤดูการขายที่สำคัญ และขณะนี้ประชาชนกลับมาจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้น
การเติบโตของยอดขายอาหาร ready to eat ของบริษัททั้งในแง่ปริมาณและมูลค่าน่าจะสูงกว่าตลาดรวมที่คาดว่าจะเติบโตราว 10% ในปีนี้ โดยบริษัทเป็นผู้ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุด ซึ่งตลาดรวมแต่ละปีจะมีมูลค่าประมาณ 3-3.5 พันล้านบาท CPF มีส่วนแบ่ง 25% อันดับ 2 เป็นพรานทะเล 22-23% และอันดับ 3 เป็นเอสแอนด์พี
อนึ่ง ประเภทของอาหารว่าง ready to eat เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเนื้อไก่ 800 ล้านบาท ที่เหลือผลิตจากเนื้อหมู และสินค้าอื่น ๆ เช่น อาหารกล่อง และ อาหารที่แปรรูปจากกุ้ง ซึ่งในกลุ่มของอาหารกล่อง CPF ก็เป็นผู้นำตลาดเช่นกัน
นายสุพัฒน์ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทได้จัดงบสำหรับทำการตลาดด้วยการทำโปรโมชั่น 180-190 ล้านบาท ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังยังเหลืองบอีก 50 ล้านบาท ก็จะมีการจัดรายการส่งเสริมการขาย ณ จุดขาย เพื่อให้มีสินค้าวางขายทุกช่องทางทั้งโมเดิร์นเทรด ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต ร้านซีพีเฟรชมาร์ท และ เซเว่น-อีเวฟเว่น ที่มีกว่า 5 พันสาขา