บมจ.ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน(ROBINS)ปรับเพิ่มเป้ายอดขายปี 53 เป็นเติบโต 13-14% จากเดิม 12% เนื่องจากยอดขายในช่วงครึ่งปีแรกเติบโตได้เกินกว่าเป้าหมายเป็นผลจากเศรษฐกิจที่ขยายตัวได้ดีกว่าคาด หรือโต 16.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเชื่อว่าครึ่งปีหลังยอดขายยังน่าจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
"ยอดขายครึ่งปีหลังน่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก แต่จะโตน้อยกว่าปีที่แล่วเพราะว่าฐานสูง ส่วนกำไรก็น่าจะดีตาม" นายปรีชา เอกคุณากุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ROBINS กล่าว
ทั้งนี้ มองว่าแนวโน้มยอดขายในต่างจังหวัดจะเติบโตได้ดีกว่าในกรุงเทพ เนื่องจากเป็นตลาดใหม่ และกำลังซื้อของผู้บริโภคก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับไม่มีคู่แข่ง โดยสินค้าในกลุ่มแฟชั่น ทั้งเครื่องสำอาง เสื้อผ้า เครื่องประดับ ,กลุ่มของใช้ภายในบ้าน และ กลุ่มของขวัญของเล่น จะเป็นกลุ่มที่ขับเคลื่อนยอดขายบริษัทให้ขยายตัวได้ดี
และบริษัทมีแผนจะปรับกลยุทธ์ด้วยการเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้าเฉพาะที่เป็นแบรนด์ของโรบินสันให้มากขึ้น จากที่มีสัดส่วน 7%ของขายในปัจจุบันปรับเพิ่มเป็น 10% ภายใน 2 ปีข้างหน้า
ขณะที่บริษัทยังมีแผนเปิดสาขาใหม่อย่างต่อเนื่องปีละไม่ต่ำกว่า 3-4 แห่ง โดยในปี 54-55 จะมีการเปิดสาขาใหม่ปีละ 3 สาขา เน้นในพื้นที่ต่างจังหวัดเป็นหลัก ซึ่งบริษัทได้ตั้งงบลงทุนไว้ปีละ 1.4-1.5 พันล้านบาท เพื่อลงทุนในสาขาใหม่และปรับปรุงสาขาเดิม ส่วนห้างโรบินสันที่อยู่ในศูนย์การค้าฟิวเจอร์ปาร์คบางแคจะกลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้งในไตรมาส 3/54 หลังจากมีการปิดปรับปรุงโฉมใหม่
นายปรีชา เปิดเผยว่า ในปี 54 บริษัทจะเปิด 3 สาขาใหม่ที่ จ.เชียงราย ในเดือน เม.ย.54, จ.พิษณุโลก เปิดในเดือน ก.ย.54 และ สาขา พระราม 9 ในเดือน ธ.ค.54
ส่วนงบการลงทุนในปี 53 อยู่ที่ 1.2 พันล้านบาท ซึ่งใช้ปรับปรุงสาขาเดิม 4 แห่ง คือ ราชบุรี , หาดใหญ่ , รัตนาธิเบศร์ และ จันทบุรี และอีกส่วนใช้การลงทุนสาขาใหม่ ที่ จ.ตรัง ที่จะเปิดให้บริการในวันที่ 11 พ.ย. นี้
สำหรับสาขาถนนรัชดาภิเษก นายปรีชา กล่าวว่า บริษัทจะหมดสัญญาเช่าพื้นที่ในอีก 3 ปีข้างหน้า คาดว่าจะมีการต่อสัญญาออกไปอีก เนื่องจากมองว่าสาขารัชดาฯ ยังทำรายได้เติบโตดี
นอกจากนี้บริษัทศึกษาการเข้าลงทุนในตลาดต่างประเทศ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะลงทุนในประเทศไหน