บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์เช้านี้ เตือนประเด็นข่าวบริษัท พีทีทีอีพี ออสตราเลเชีย พีทีวาย จำกัด(PTTEP AA)บริษัทย่อยของบมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP)ได้รับเอกสารเรียกร้องค่าชดเชยความเสียหายเนื่องมาจากเหตุการณ์น้ำมันรั่วแหล่งมอนทาร่าจากรัฐบาลอินโดนีเซียเป็นข่าวลบที่จะกดดันต่อราคาหุ้นในระยะสั้นจนกว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น
การที่ PTTEP แจ้งตลาดฯว่าได้รับเอกสารเรียกร้องความเสียหายจากรัฐบาลอินโดนีเซียแล้วในเย็นวานนี้ ซึ่งเถือเป็นครั้งแรกที่มีการแจ้งอย่างเป็นทางการ โดยตามข่าวระบุว่ามูลค่าความเสียหายที่เรียกร้องขั้นต่ำอยู่ที่ 1.1 พันล้านเหรียญ
อย่างไรก็ดี PTTEP ยังคงระบุว่ายังไม่หลักฐานที่มีความชัดเจนเรื่องความเสียหายที่เกิดขึ้น และบริษัทมั่นใจว่าได้มีการตรวจสอบ โดยละเอียดภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้น ในเชิงพื้นฐานเรายังคงคำแนะนำ ซื้อราคาเป้าหมายที่ 182 บาท
ขณะที่ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ยังคงยืนยันหลีกเลี่ยงการลงทุนใน PTTEP หลังรัฐบาลอินโดนีเซียเรียกร้องความเสียหายเพิ่มขึ้นเป็น US$1.1 พันล้าน หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้นก่อนหักภาษี 10.42 บาท ทั้งนี้ การฟ้องร้องดังกล่าวยังไม่รวมถึงความเสียหายที่รัฐบาลออสเตรเลียจะดำเนินการกับ PTTEP ทำให้ความเสี่ยงของการลงทุนใน PTTEP ยังคงเปิดกว้าง และเป็นการกดดัน Upside Gain ของ PTTEP เช่นกัน
ส่วนบทวิเคราะห์ของบล.เกียรตินาคิน มองว่า ตัวเลขการเรียกร้องค่าเสียหายยังไม่ชัดเจน เริ่มจาก 55 ล้านเหรียญ เป็น 780 ล้านเหรียญ และล่าสุด 2,450 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะประเมิน นอกจากนี้กระบวนการยังต้องเข้าสู่ขั้นตอนการสอบสวนความเสียหาย ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาอีกนาน
เบื้องต้นเราประเมินผลกระทบจากการเรียกร้องค่าเสียหายที่มีต่อมูลค่าที่เหมาะสมของ PTTEP โดยทุก 1,000 เหรียญ จะกระทบราคาหุ้นประมาณ 14 บาท (ประมาณ 6.7%) โดยเราประเมินมูลค่าที่เหมาะสมจาก DCF ให้ราคาปี 53 ไว้ที่ 208 ล้านบาท แม้บริษัทจะเชื่อมั่นต่อประเด็นดังกล่าว แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าประเด็นดังกล่าวกระทบจิตวิทยาการลงทุน และระดับราคาหุ้น PTTEP มาก