NCH เปิดโครงการใหม่เพิ่ม-หาซื้อที่ดินผืนใหม่ในตจว.,คาดปีนี้กำไรโต 20%

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 27, 2010 11:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง(NCH)อยู่ระหว่างพิจารณาเปิดโครงการใหม่เพิ่มเติมอีก 1 โครงการ จากแผนงานเดิมที่จะเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ 2 โครงการ ซึ่งเปิดตัวในไปช่วงครึ่งปีแรกแล้ว 1 โครงการ และกำลังจะเปิดตัวอีก 1 โครงการในครึ่งปีหลัง

"บริษัทกำลังเจรจาซื้อที่ดินใน 2 ทำเลทั้งโซนตะวันออกและตะวันตก คาดว่าจะสรุปได้ภายใน 2-3 เดือนนี้ เบื้องต้นคาดจะใช้เม็ดเงินซื้อที่ดินราว 200 ล้านบาท ซึ่งจะพัฒนาเป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่บริษัทมีความชำนาญ"นายสมเชาว์ กล่าว

พร้อมกันนั้น บริษัทยังมองหาที่ดินเพิ่มเติมในต่างจังหวัดเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการในอนาคต จากปัจจุบันที่มีโครงการในเมืองพัทยาแห่งเดียว คือ"เดอะ กรีน พาร์ค จอมเทียน"เปิดตัวในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ขณะนี้ทำยอดขาย 50% จากกว่า 90 ยูนิต คาดว่าจะปิดการขายได้ภายในปีนี้ และหลังจากนั้นก็จะเริ่มการพัฒนาโครงการใหม่ ซึ่งน่าจะเป็นพื้นที่พัทยาเช่นเดิม เพราะบริษัทมีความคุ้ยเคยและรู้จักตลาดดีแล้ว

นายสมเชาว์ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทยังไม่มีแผนจะปรับราคาขายโครงการ เพราะบริษัทเน้นการควบคุมต้นทุนได้ทั้งผู้รับเหมาก่อสร้างและวัตถุดิบที่ใช้ โดยที่ผ่านมาบริษัทก็มีการนำวัสดุสำเร็จรูปบางส่วนมาใช้มากขึ้น ซึ่งช่วยในการประหยัดเวลาและทำให้สามารถโอนโครงการได้เร็วขึ้นด้วย

ส่วนการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมบริษัท ยังอยู่ระหว่างการศึกษา แต่คงไม่เห็นในปีนี้และปีหน้าอย่างแน่นอน เพราะขณะนี้ความต้องการโครงการในแนวราบกลับคืนมา และบริษัทก็มีความชำนาญในการพัฒนาโครงการแนวราบอยู่แล้ว ประกอบกับ ในตลาดก็มีโครงการคอนโดมิเนียมขึ้นมาค่อนข้างมาก ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ออกมาเตือนว่าคอนโดมิเนียมอาจมีปัญหาโอเวอร์ซัพพาย จึงทำให้เราต้องระมัดระวัง

*คาดปีนี้กำไรโต 20% เป้ารายได้แตะ 1.2 พันลบ.ปันผลมากกว่าปีก่อน

นายสมเชาวน์ กล่าวว่า บริษัทเชื่อว่าในครึ่งหลังของปีนี้จะยังสามารถสร้างกำไรได้ดี แม้อาจจะทำได้ใกล้เคียงหรือลดลงเล็กน้อยจากครึ่งปีแรกที่มีกำไร 53 ล้านบาท หลังจากมาตรการภาษีกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์สิ้นสุดลงไปแล้ว แต่ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้น และบริษัทก็ได้ทำการตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะการจัดโปรโมชั่น และการปรับเปลี่ยนรูปแบบบ้านให้มีฟังก์ชั่นสะดวกสบายขึ้น เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อได้

สำหรับทั้งปี 53 บริษัทคาดว่ากำไรสุทธิยังเติบโตได้ จากฐานกำไรในปีก่อนค่อนข้างต่ำ ทั้งนี้ปัจจัยดังกล่าวทำให้บริษัทคาดว่าจะมีกำไรสุทธิเติบโต 20% จากปีก่อน ถือเป็นการเติบโตเพิ่มขึ้นจากเดิมที่บริษัทคาดว่าจะขยายตัวเพียง 10% จากกำไรสุทธิ 56 ล้านบาทในปีก่อน

ขณะที่ยอดรับรู้รายได้ในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีการปรับเพิ่มเป็น 1.2 พันล้านบาท จากเดิมที่ตั้งเป้ายอดรับรู้รายได้ 800 ล้านบาทในปีนี้ และเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มียอดรับรู้รายได้ 800 ล้านบาท เนื่องจากมีสัญญาณการกลับมาของลูกค้าในช่วงกลางปี ส่งผลให้มียอดขายที่ดี ประกอบกับ ช่วงครึ่งแรกมีรายได้แล้วประมาณ 600 ล้านบาท

ประกอบกับ บริษัทมียอดขายที่รอรับรู้รายได้(Backlog)ราว 300-500 ล้านบาท จากโครงการ อาทิ บ้านฟ้ากรีนพาร์ค(รังสิตคลอง 3), บ้านฟ้า กรีนพาร์ค รอยัล(พุทธมณฑลสาย 1) ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ไปจนถึงสิ้นเดือน ธ.ค.53

"ตอนนี้เรามีความแข็งแกร่งขึ้นทั้งยอดขายและกำไร และฐานะทางการเงิน เพราะฉะนั้นปีนี้เราน่าจะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้มากกว่าปีก่อนที่จ่าย 2 สตางค์ และปีนี้ก็เป็นกำไรที่เกิดจากผลการดำเนินงานล้วน ๆ ไม่เหมือนปีก่อนที่เรามีกำไรพิเศษเข้ามาช่วย และตอนนี้สถานการณ์ทุกอย่างก็ดี กำลังซื้อของผู้บริโภคเริ่มฟื้นตัว หลังเศรษฐกิจเติบโตดี การเมืองก็นิ่ง"นายสมเชาว์ กล่าว

นายสมเชาว์ กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ดีกว่าปี 52 ทั้งในแง่ของการขายและการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน แต่ราคาขายไม่น่าจะปรับเพิ่มขึ้นมากนัก ยกเว้นโครงการเปิดตัวใหม่ในพื้นที่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า เพราะมีต้นทุนราคาที่ดินแพงขึ้น แต่ตลาดยังมีแรงกดดันจากปริมาณที่อยู่อาศัยระดับล่างที่จะทะลักออกมามากขึ้นเพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากบีโอไอ และแนวโน้มที่คนไทยจะมีบ้านมากกว่าหนึ่งหลังมีมากขึ้น

และเชื่อว่าในปี 54 เศรษฐกิจก็ยังน่าจะเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งก็จะส่งผลต่อการเติบโตของบริษัทต่อเนื่องด้วยเช่นกัน


แท็ก (NCH)  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ