BJCเล็งหาพันธมิตรร่วมประมูลซื้อคาร์ฟูร์,คาดรายได้ H2/53ใกล้เคียง H1/53

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 27, 2010 14:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ดุษฎี เทอดเทพพิทักษ์ ผู้จัดการด้านการเงิน บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) เปิดเผยว่า บริษัทอาจหาพันธมิตรเข้าร่วมประมูลซื้อกิจการห้างคาร์ฟูร์ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาหลายเรื่องทั้งโครงการเงินทุน ซึ่งจะต้องไม่เสี่ยงมากเกินไปในการต่อยอดธุรกิจ และผลตอบแทนการลงทุนต้องไม่ต่ำกว่าระดับ 10% สำหรับกิจการในไทย แต่กิจการในภูมิภาค บริษัทมีนโยบายว่าผลตอบแทนต้องเกิน 14%

"หากจะเข้าไปซื้อส่วนหนึ่งเราอาจจะไม่มีประสบการณ์ธุรกิจรีเทล และถ้าเงินทุนเราไม่พอแล้วมีพาร์ทเนอร์คุยแล้วไปด้วยกันได้ก็เป็น option หนึ่งที่จะพิจารณาซึ่งอยู่ระหว่างการตัดสินใจของฝ่ายบริหาร"น.ส.ดุษฎี กล่าว

ปัจจุบัน บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E) อยู่ที่ 0.81 เท่า ยังสามารถขอเปิดวงเงินกู้จากสถาบ้นการเงินได้อีก 16,000 ล้านบาท และบริษัทมีกระแสเงินสด 3,000-4,000 ล้านบาท ทั้งนี้ แหล่งเงินอาจจะมาจากทั้งเงินกู้จากสถาบันการเงินและการออกหุ้นเพิ่มทุน

นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าจะสรุปดีลซื้อกิจการ Distribution ในประเทศเวียดนามได้ในไตรมาส 4/53 โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนหลายร้อยล้านบาท และบริษัทยังมีที่ดินและสร้างโรงงานไว้แล้วในเวียดนาม ซึ่งมีแผนจะผลิตกระดาษชำระในปลายปีนี้ โดยกำลังเตรียมติดตั้งเครื่องจักร คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ปลายไตรมาส 4/53 เป็นต้นไป แต่ส่วนกำไรคาดว่าจะเห็นในปีหน้า หลังจากนั้นก็มีแผนจะผลิตขนมขบเคี้ยวในระยะต่อไป

ส่วนงบลงทุนปกติในปีนี้ตั้งไว้ 1,000 ล้านบาทสำหรับซื้อเครื่องจักรทดแทนของเดิมและปรับปรุงประสิทธิภาพการผบิต ไม่รวมถึงเงินลงทุนที่จะเข้าซื้อกิจการอื่น

น.ส.ดุษฎี กล่าวว่า ครึ่งปีหลังน่าจะมีผลประกอบการเป็นไปตามเป้าหมาย โดยคาดว่ารายได้จะใกล้เคียงครึ่งปีแรกที่มี 12,274 ล้านบาท เติบโตขึ้น 10% ซึ่งในช่วงไตรมาส 4/53 สินค้าบริการอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นรายได้หลักถึง 50% โดยเฉพาะขวดแก้วและกระป๋องอลูมิเนียม (ลูกค้าหลักคือไทยเบฟเวอเรจ) จะขายดีเพราะช่วงเทศกาล

สินค้าดังกล่าวยังเป็นสินค้าที่มีมาร์จิ้นดีในครึ่งปีแรก หลังจากต้นทุนวัตถุดิบโซดาแอชต่ำลง และมั่นใจว่าราคาวัตถุดิบจะยืนระยะได้ถึงครี่งปีหลัง เพราะบริษัทซื้อโซดาแอชจากบริษัทในเครือ ซึ่งสามารถล็อคราคาล่วงหน้าได้ถึงปลายปีนี้ จึงสามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้ถึงปลายปีนี้เช่นกัน

ในส่วนสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น กระดาษทิชชู คาดว่าราคาเยื่อกระดาษมีแนวโน้มปรับลง บวกกับการควบคุมต้นทุนการผลิต ทำให้มาร์จิ้นธุรกิจกระดาษกลับมาดีได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ