ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 140.92 จุด หลังสหรัฐเผยรายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 31, 2010 06:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (30 ส.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยรายได้ส่วนบุคคลเดือนก.ค.ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ รวมทั้งปรับลดการประเมินตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีท่าทีระมัดระวังก่อนที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์และตัวเลขจ้างงานเดือนส.ค.ในสัปดาห์นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 140.92 จุด หรือ 1.39% ปิดที่ 10,009.73 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 15.67 จุด หรือ 1.47% ปิดที่ 1,048.92 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 33.66 จุด หรือ 1.56% ปิดที่ 2,119.97 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 5.6 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 7 ต่อ 2

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ปัจจัยที่สร้างแรงกดดันให้กับตลาดหุ้นนิวยอร์กมากที่สุดคือกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยข้อมูลล่าสุดของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า รายได้ส่วนบุคคลเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3%

ข้อมูลดังกล่าวบดบังปัจจัยบวกของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งคิดเป็นร้อยละ 70 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐ ปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นสถิติที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 4 เดือน และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.3%

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า อัตราการออมส่วนบุคคลในเดือนก.ค.ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 5.9% ในเดือนก.ค. จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 6.2% อย่างไรก็ตาม อัตราการออมเดือนก.ค.ยังสูงกว่าระดับในช่วงก่อนที่สหรัฐจะเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยในเดือนธ.ค.ปี 2550 เกือบ 3 เท่า

อัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ปี 2553 ของสหรัฐถูกปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 1.6% ซึ่งน้อยกว่าที่ประเมินไว้ครั้งก่อนว่าขยายตัว 2.4% และเป็นสถิติที่ขยายตัวรายไตรมาสที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันอังคาร สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์คซิตี้เดือนส.ค. สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์จะเปิดเผยราคาบ้านเดือนมิ.ย. สมาคมผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อแห่งชาติ (NAPM) จะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ชิคาโกเดือนส.ค. และสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนส.ค.

วันพุธ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนส.ค. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยข้อมูลค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนก.ค. และสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์

วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือนก.ค. และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.ค. ส่วนวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค. และ ISM จะเปิดเผยดัชนีภาคบริการและดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจเดือนส.ค.

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 28 ส.ค.จะอยู่ที่ระดับ 475,000 ราย เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้านั้นที่ระดับ 473,000 ราย

หุ้นอินเทลร่วง 2.2% หลังจากมีข่าวว่าอินเทลยื่นข้อเสนอซื้อหุ้นในบริษัทอินฟินีออน เทคโนโลยีส์ เอจีของเยอรมนีวงเงิน 1.4 พันล้านดอลลาร์

ส่วนหุ้นซาโนฟี-แอดเวนติส ปิดร่วง 29 เซนต์ สู่ระดับ 28.63 ดอลลาร์ และหุ้นเจนไซม์ปิดบวก 3.4% หลังจากมีรายงานว่าซาโนฟี-แอดเวนติส เสนอซื้อหุ้นในบริษัทเจนไซม์ในราคาหุ้นละ 69 ดอลลาร์ หุ้นฮิวเลตต์-แพคการ์ด (เอชพี) ปิดบวก 56 เซนต์ แตะที่ 38.56 ดอลลาร์ หลังจากเอชีเปิดเผยว่าทางบริษัทวางแผนที่จะซื้อคืนหุ้นมูลค่า 1.0 หมื่นล้านดอลลาร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ