ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลงถ้วนหน้าเช้าวันนี้ (31 ส.ค.) หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยรายได้ส่วนบุคคลที่ชะลอตัวลงกว่าคาดการณ์ ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอาจจะชะลอตัว และเงินเยนยังแข็งค่าขึ้น
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 8,998.80 จุด ลดลง 150.46 จุด ส่วนดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,539.22 จุด ลบ 198.00 จุด ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนลดลง 0.3% แตะที่ 2,644.79 จุด ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นโซลเปิดวันนี้ที่ 1,746.85 จุด ลดลง 13.28 จุด ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,669.31 จุด ลบ 71.89 จุด ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 4,438.10 จุด ลดลง 14.60 จุด และดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,942.44 ลบ 14.62 จุด
ดัชนี MSCI Asia Pacific ร่วง 1% แตะ 117.10 จุด เมื่อเวลา 10.06 น.ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงโตเกียว
หุ้นโซนี่ และแคนนอนร่วงลงกว่า 2.4% ส่วนหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ร่วง 1.6% หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลง
นักวิเคราะห์กล่าวว่า นักลงทุนกังวลว่าอัตราการชะลอตัวของการใช้จ่ายส่วนบุคคลในสหรัฐจะส่งผลกระทบด้านลบต่อเศรษฐกิจโลก เนื่องจากการส่งออกของญี่ปุ่น จีน และประเทศอื่นๆในเอเชียต้องพึ่งพาเศรษฐกิจสหรัฐ
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งคิดเป็นร้อยละ 70 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐ ปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นสถิติที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 4 เดือน และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.3% เพราะได้แรงหนุนจากยอดขายรถยนต์ที่แข็งแกร่ง ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ส่วนอัตราการออมส่วนบุคคลในเดือนก.ค.ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 5.9% ในเดือนก.ค. จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 6.2% อย่างไรก็ตาม อัตราการออมเดือนก.ค.ยังสูงกว่าระดับในช่วงก่อนที่สหรัฐจะเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยในเดือนธ.ค.ปี 2550 เกือบ 3 เท่า