หุ้น TASCO ราคาพุ่งขึ้น 5.93% มาอยู่ที่ 62.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 167.97 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.18 น. โดยเปิดตลาดที่ 59 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 63.25 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 59 บาท
บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ทิปโก้แอสฟัลท์(TASCO)โดยมีราคาพื้นฐานใหม่ที่ 90.00 บาท แนวโน้มกำไรของ TASCO ใน 2H10 คาดจะยังเติบโตดี จากตลาดส่งออกที่ขยายตัวโดดเด่นและการเดินเครื่องเกินกว่า 70-80% ของโรงกลั่นที่มาเลเซีย นอกจากนี้ ปริมาณน้ำมันดิบที่มีมากพอกลั่นไปจนถึงเดือน ธ.ค.2553 ช่วยให้ TASCO สามารถผลิตยางมะตอยได้สม่ำเสมอและรองรับความต้องการใช้ยางมะตอยในตลาดต่างประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น อาทิ จีน อินโดนีเซีย เวียดนาม และออสเตรเลีย
สำหรับตลาดในประเทศ งบประมาณก่อสร้างถนนไร้ฝุ่นความยาวรวม 5,200 ก.ม. จะช่วยหนุนให้ยอดขายในประเทศของ TASCO เพิ่มขึ้น 34% YoY ปัจจัยดังกล่าว ทำให้ปรับเพิ่มสมมติฐานอัตราการเติบโตของยอดขายรวมในปี 2553 จาก 55% เป็น 60% และคาดว่ากำไรสุทธิในปี 2553 จะเพิ่มจากสมมติฐานเดิม 15% จาก 1 พันล้านบาทเป็น 1.15 พันล้านบาท
ความสามารถในการเพิ่มการผลิตน้ำมันดิบจาก 6.7 ล้านบาร์เรลต่อปีเป็น 7.2 และ 9 ล้านบาร์เรลต่อปีในปี 2554 และ 2555 ส่งผลให้ TASCO สามารถผลิตแอสฟัลท์สม่ำเสมอและเป็นผู้นำตลาดเอเชียแปซิฟิค โดยเฉพาะในจีน ซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าสุทธิถึง 3-4 ล้านตันต่อปี การเติบโตของตลาดส่งออกด้วยอัตราเฉลี่ยสูงถึง 16.8% จะสามารถชดเชยกับอัตราการขยายตัวในประเทศที่เติบโตลดลงเป็น 8.6%
ดังนั้น เราคาดว่าการเติบโตของกำไรสุทธิในช่วง 3 ปีข้างหน้าจะอยู่ที่ 18.0% CAGR จาก 1.15 พันล้านบาทในปี 2553 เป็น 1.4 พันล้านบาทในปี 2554 และ 1.6 พันล้านบาทในปี 2555