นายธนพล ศิริธนชัย กรรมการผู้จัดการ บมจ.ยูนิเวนเจอร์ (UV) คาดว่า รายได้รวมในปี 54 จะเติบโตเท่าตัวเป็น 4.4 พันล้านบาทจากปี 53 ที่คาดว่าจะมีรายได้รวม 2.2 พันล้านบาท เนื่องจากจะมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็น 3.2 พันล้านบาท จากโครงการคอนโดมินียม ยูดีไลท์ ห้วยขวาง และ ยูดีไลท์ จตุจักร
ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีหน้าจะเพิ่มเป็นประมาณ 70% จาก 60% ในปีนี้ ส่วนธุรกิจสังกะสีอ๊อกไซด์ คาดว่าจะมีรายได้ 1.2 พันล้านบาทในปีหน้า บนสมมติฐานราคาตลาดโลกที่ 2.2 พันเหรียญ/ตัน
ในปี 53 รายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ คาดว่าจะรับรู้รายได้ 1.2-1.3 พันล้านบาทจากโครงการ ยูดีไลท์ บางซื่อ ส่วนธุรกิจสังกะสีรายได้ดีขึ้นรับผลดีจากราคาสังกะสีตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีอัตรากำไรขั้นต้น 28-30% ส่วนธุรกิจสังกะสีอ๊อกไซด์มีกว่า 10%
บริษัทคาดว่ากำไรสุทธิในปี 53 จะดีกว่าปีก่อนทีมีกำไรสุทธิ 8.25 ล้านบาท โดยในงวด 6 เดือนแรกบริษัทมีกำไรสุทธิแล้ว 106.70 ล้านบาท
*เริ่มรับรู้รายได้จากโครงการ"ปาร์คเวนเชอร์ฯ"ใน Q4/54
นายธนพล คาดว่า บริษัทจะสามารถเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการปาร์ค เวนเชอร์-ดิอิโคเพล็กซ์ ออน วิทยุ ซึ่งอยู่มุมถนนเพลินจิต-วิทยุในไตรมาส 4/53 หลังจากที่งานก่อสร้างโครงการส่วนอาคารสำนักงานแล้วเสร็จตามกำหนดที่วางไว้ในเดือน ก.ย.54 และคาดว่าจะรับรู้รายได้เต็มปีในปี 55 คาดว่าจะมีรายได้อย่างน้อย 300 ล้านบาท บนสมมติฐานที่มีอัตราเช่า 90%
"โครงการปาร์ค เวนเชอร์ จะช่วยทำให้รายได้เรา stable ได้ต่อไป"นายธนพล กล่าว
ปัจจุบัน งานก่อสร้างโครงการก้าวหน้าไป 32% เร็วกว่าแผน 15 วัน ซึ่งขณะนี้งานก่อสร้างไปถึงชั้นที่ 21 แล้ว โดยในส่วนอาคารสำนักงานจะมี 22 ชั้น รวมพื้นที่ทั้งหมด 27,000 ตร.ม. และในส่วนโรงแรม ตั้งแต่ชั้นที่ 23-33 มีจำนวน 242 ห้อง พื้นที่รวม 25,615 ตร.ม.ซึ่งกลุ่มทีซีซีจะเป็นบริหารและตกแต่งโรงแรมเอง
อนึ่ง โครงการปาร์ค เวนเชอร์ฯ ใช้เงินลงทุน 5 พันล้านบาท โดยในส่วนอาคารสำนักงานใช้เงินลงทุนราว 3 พันล้านบาท โดยบริษัทใช้วัสดุก่อสร้างที่สามารถประหยัดพลังงาน ด้วยการติดตั้งกระจกอนุรักษ์พลังงานบริเวณรอบอาคาร ใช้เงินลงทุนกว่า 500 ล้านบาททำให้สามารถประหยัดการใช้พลังงานไฟฟ้าจากเครื่องปรักอากาศ
ด้านนายนิธิพัฒน์ ทองพันธ์ กรมการบริหาร ซีบี ริชาร์ด เอลลิส ในฐานะตัวแทนดูแลการขายพื้นที่อาคารสำนักงานอย่าง กล่าวว่า โครงการปาร์ค เวนเชอร์ฯ เป็นอาคารสำนักงานเกรดพรีเมี่ยม เน้นการออกแบบอาคารที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เป็น Green Building ตรงตามความต้องการของบริษัทต่างๆ โดยเฉพาบริษัทต่างชาติซึ่งจะเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก เท่าที่สำรวจ ริษัทต่างชาติมีแผนจะขยายสำนักงาน เพราะเริ่มมีความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจไทย
ในระยะเวลา 3 ปีจากนี้จะมีอาคารสำนักงานระดับเกรดเอ เพียง 2 แห่ง ที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว รวมพื้นที่เพียง 100,000 ตร.ม. ได้แก่ โครงการ สาทร สแควร์ ที่มีพื้นที่ราว 72,000 ตร.ม. และ โครงการปาร์ค เวนเชอร์ฯ จากพื้นที่สำนักงานทั้งหมดที่มีในตลาดปัจจุบันอยู่ราว 8 ล้าน ตร.ม.ซึ่งค่าเช่าโครงการปาร์ค เวนเชอร์ อยู่ที่ 800-850 บาท/ตร.ม./เดือน ถือว่าสูงสุดในกลุ่มที่อยู่ในระดับ 700-750 บาท/ตร.ม./เดือน และอนาคตโครงการปาร์ค เวนเชอร์ฯ อาจปรับเพิ่มค่าเช่าหากนักธุรกิจต่างชาติมีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยมากขึ้น
"ดูจากสภาพตลาด office ค่อยๆขยับดีขึ้น คนเริ่มกลับมาสนใจ คิดว่าปี 54 คิดว่าน่าจะดีขึ้น ...เราคิดว่าน่าใช้เวลาประมาณ 1 ปี ก็น่าจะเช่าเต็ม หลังจากเปิดกันยายน 54 บริษัทที่เป็นเป้าหมายหลักก็เป็นบริษัทต่างชาติ เช่น บริษัทประเภทให้ service บริษัท ธุรกิจประกัน" นายนิธิพัฒน์ กล่าว
ทั้งนี้ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาอัตราเช่าสำนักงานทั่วกรุงเทพอยู่ที่ประมาณ 14%