(เพิ่มเติม) BAFS ศึกษาลงทุนแตกไลน์ธุรกิจ-ปรับโครงสร้างเงินทุน,เพิ่มเป้ารายได้ปีนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 31, 2010 16:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ม.ร.ว.ศุภดิศ ดิศกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ(BAFS)กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาแผนปรับโครงสร้างเงินทุน ซึ่งเป็นแผนระยะยาวปี 54-57 โดยได้ว่าจ้างที่ปรึกษามาจัดทำแผน คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงกลางปี 54

ทั้งนี้ บริษัทกำลังศึกษาการลงทุนในธุรกิจด้านอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการบินและท่องเที่ยวด้วย เพื่อลดความเสี่ยงความผันผวนของรายได้ที่พึ่งพาเพียงธุรกิจการบินเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมาเมื่อมีปัญหาเศรษฐกิจและการเมือง ธุรกิจการบินจะได้รับผลกระทบค่อนข้างเร็ว

ประกอบกับบริษัทมีกระแสเงินสดจำนวนมากเมื่อเทียบกับหนี้ที่มีอายุเฉลี่ยเหลือเพียง 5 ปี บริษัทจึงเห็นควรที่จะเจรจากับสถาบันการเงินเพื่อยืดอายุหนี้เป็น 7-10 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับกระแสเงินสดที่มี ไม่เช่นนั้นจะมีกระแสเงินสดมากเกินไป

ม.ร.ว.ศุภดิศ กล่าวว่า รายได้รวมของบริษัทในปีนี้ มีโอกาสเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 7% เนื่องจากปีนี้มีรายได้เสริมจากการให้เช่าถังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดอนเมือง 2 ถัง ทำรายได้ปีละ 5-6 ล้านบาท และรายได้จากงานซ่อมบำรุงเพิ่มเข้ามาด้วย

นางสาวประพิศณ์ ฤทัยรุ่ง หัวหน้าแผนกการเงิน BAFS เปิดเผยว่า บริษัทปรับเพิ่มเป้ารายได้ปีนี้เป็นเติบโต 6% จากเดิมคาดโต 3.5-4.0% เนื่องจากบริษัทยกเลิกการให้ส่วนลดการบริการจัดเก็บน้ำมัน ตั้งแต่เดือน มี.ค.53 ประกอบกับ มีปริมาณจราจรทางอากาศเพิ่มมากขึ้น จากเที่ยวบินจากสายการบินและชาร์เตอร์ไฟลท์ที่เข้ามามากขึ้น ทำให้รายได้ของบริษัทปรับเพิ่มขึ้นด้วย

บริษัทคาดว่าปริมาณการเติมน้ำมันในปีนี้ ปรับเพิ่มขึ้นมาเป็นเติบโต 3% จากเดิมคาดเติบโต 2.2% คาดว่าปริมาณการเติมน้ำมันทั้งปี 53 จะอยู่ที่ 4,240 ล้านลิตร จากปีก่อนอยู่ที่ 4,110 ล้านลิตร

ส่วนในปี 54 จากการประเมินเที่ยวบินเบื้องต้นของสายการบินไทย (THAI) ที่เป็นลูกค้าหลัก คาดว่าการเติมปริมาณน้ำมันในปีหน้าจะเพิ่มประมาณ 3%

"หลังการยกเลิกการให้โปรโมชั่นกับสายการบิน ทำให้ตัวเลขการเติบโตของบริษัทดีขึ้นกว่าที่คาดหมาย และประกอบการเที่ยวบินยังคงปริมาณเพิ่มขึ้น แม้ว่าช่วง พ.ค. จะมีปัญหาการเมือง นักท่องเที่ยวหายไป แต่เที่ยวบินไม่ได้ลดลง"นางสาวประพิศณ์ กล่าว

สำหรับการจ่ายเงินปันผลปี 53 หัวหน้าแผนการเงิน BAFS เชื่อว่าในงวดครึ่งปีหลังจะมีการจ่ายปันผลต่อเนื่อง โดยเบื้องต้นมั่นใจว่าจะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไม่น้อยกว่าหรือใกล้เคียงกับงวดครึ่งปีหลังของปีก่อนที่จ่ายในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท ส่วนงวดครึ่งปีแรก ประกาศจ่ายไปแล้วอัตราหุ้นละ 0.18 บาท

นอกจากนั้น ในปีนี้บริษัทไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่ มีเพียงการเพิ่มขนาดปั๊มหัวจ่ายน้ำมัน(Hydrant Pump) อีก 1 ตัวจากปัจจุบันมี 9 ตัว มูลค่าเงินลงทุน 21 ล้านบาท และระหว่างนี้อยู่ระหว่างพิจารณาเพิ่มปั๊มหัวจ่ายอีก 1 ตัวที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยรอให้คณะกรรมกรรบริษัทอนุมัติก่อน

ส่วนแผนการลงทุน ของบริษัท ไทยเชื้อเพลิงการบิน จำกัด(TARCO) ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ให้บริการท่อส่งน้ำมัน จะขยายการลงทุนท่อส่งน้ำมัน เฟส 2 รองรับการขยายการลงทุนสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 โดยขณะนี้บริษัทยังคงแผนเดิมที่จะลงทุนในช่วงปี 55 ซึ่งสอดคล้องกับการคืนหนี้ของ TARCO หมดภายในปีเดียวกัน จึงไม่กระทบต่อการลงทุนเฟส 2 และไม่กระทบต่อแผนการคืนหนี้ของ BAFSที่จะหมดในปี 58

อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่มีแผนรีไฟแนนซ์หนี้ เนื่องจากต้นทุนเงินกู้ในปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำมากอยู่แล้ว โดยบริษัทมีวงเงินกู้ 2,775 ล้านบาท กับธนาคารกรุงเทพ อายุหนี้เฉลี่ย 5 ปี ในปีหน้าจะต้องเพิ่มการชำระหนี้เป็น 680 ล้านบาทมากกว่าปีนี้ ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อแผนการเงิน เพราะบริษัทมีกระเสเงินสดเพียงพอ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ