ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 4.99 จุด หลังสหรัฐเผยราคาบ้าน-ความเชื่อมั่นผู้บริโภคดีดตัว

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 1, 2010 06:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (31 ส.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและราคาบ้านใน 20 เขตเมืองของสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าดัชนีภาวะธุรกิจในนิวยอร์กซิตี้เดือนส.ค.ชะลอตัวลง และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมที่บ่งชี้ว่า คณะกรรมการเฟดได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ขยับขึ้น 4.99 จุด หรือ 0.05% ปิดที่ 10,014.72 จุด ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 0.41 จุด หรือ 0.04% ปิดที่ 1,049.33 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 5.94 จุด หรือ 0.28% ปิดที่ 2,114.03 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กและตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 8.16 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 5 ต่อ 1

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แรงหนุนหลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาบ้านใน 20 เขตเมืองของสหรัฐประจำเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 0.3% จากเดือนพ.ค. มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.2% และหากเทียบกับเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว ดัชนีราคาบ้านพุ่งขึ้น 4.2% ส่วนดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศของสหรัฐในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ เพิ่มขึ้น 4.4% หลังจากหดตัวลง 2.8% ในไตรมาสแรก สะท้อนให้เห็นว่าตลาดที่อยู่อาศัยได้ปัจจัยบวกจากนโยบายลดหย่อนภาษีแก่ผู้ซื้อบ้าน

ขณะที่คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐในเดือนส.ค.พุ่งขึ้นสู่ระดับ 53.5 จุด จากเดือนก.ค.ที่ระดับ 51 จุด

ลิน ฟรังโก ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด กล่าวว่า "ผู้บริโภคยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มธุรกิจและตลาดแรงงาน แต่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ก็ยังมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคต"

แม้สหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจในด้านบวก แต่ภาวะการซื้อขายในตลาดยังคงผันผวนอันเนื่องมาจากกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเมื่อรายงานการประชุมเมื่อวันที่ 10 ส.ค.ของเฟดระบุว่า คณะกรรมการเฟดได้แสดงความวิตกกังวลต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และเล็งเห็นว่าจำเป็นต้องใช้มาตรการฟื้นฟูด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล

เฟดได้เข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมูลค่า 2.551 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเข้าซื้อครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนต.ค.2552 โดยมีเป้าหมายที่จะป้องกันไม่ให้เม็ดเงินไหลออกจากระบบการเงินของสหรัฐ โดยพันธบัตรที่เฟดเข้าซื้อครั้งนี้จะครบกำหนดไถ่ถอนตั้งแต่เดือนส.ค.2557 จนถึงเดือนก.พ.2559 โดยเฟดสาขานิวยอร์กรับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการซื้อพันธบัตรผ่านทางตลาดเปิด เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายที่เฟดวางไว้

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันหลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยผลสำรวจภาคธุรกิจในนิวยอ์กซิตี้ พบว่า ดัชนีภาวะธุรกิจในนิวยอร์กซิตี้เดือนส.ค. ยืนอยู่ที่ระดับ 55.6 จุด ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับเดือนก.ค.ที่ระดับ 59.4 จุด เนื่องจากผู้ประกอบการในภาคธุรกิจมีมุมมองที่เป็นลบมากขึ้นต่อแนวโน้มการจ้างงานและภาวะเศรษฐกิจโดยรวม

ดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 10 เดือน หลังบริษัทอินเทล คอร์ป ประกาศลดคาดการณ์รายได้ในไตรมาส 3 โดยหุ้นอินเทลร่วง 1.6%

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนส.ค. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยข้อมูลค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนก.ค. และสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์

วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือนก.ค. และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.ค. ส่วนวันศุกร์ ISM จะเปิดเผยดัชนีภาคบริการและดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจเดือนส.ค. กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ