นายอิสรา ศิวะกุล รองประธานและผู้จัดการทั่วไป บมจ.ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส (HANA) คาดรายได้ไตรมาส 3/53 ใกล้เคียงกับไตรมาส 2/53 ที่มี 135 ล้านเหรียญ และอาจจะดีกว่าไตรมาสกว่าไตรมาส 2/53 เนื่องจากบริษัทมีคำสั่งซื้อคงค้างที่รอการผลิตล้นจากไตรมาส 2/53 มาผลิตในไตรมาส 3/53 จำนวนมาก แต่บริษัทติดปัญหาเรื่องกำลังการผลิตที่โรงงานทุกแห่งใช้กำลังการผลิตสูงถึง 90% แล้ว
อย่างไรก็ตาม ทั้งปี ยอดขายในรูปเงินสกุลดอลลาร์จะเติบโตอย่างมาก แต่ถ้าแปลงเงินบาทแล้วน่าจะใกล้เคียงทีนักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 1.46 หมื่นล้านบาท
และส่วนกำไรสุทธิ ยอมรับว่าในรูปเงินสกุลดอลลาร์แม้จะเติบโตกว่าปีก่อนมาก แต่เมื่อแปลงเป็นเงินสกุลเงินบาทได้รับผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่ามาก โดยปีที่แล้ว เงินบาทเฉลี่ย 34.78 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ในปัจจุบัน เงินบาทมาอยู่ 31 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งถือว่าบริษัทได้รับผลกระทบอย่างมาก โดยทุก 10% ที่เงินบาทแข็งค่า บริษัทจะขาดทุนหรือกำไร 130 ล้านบาท
"อุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ มักไม่ค่อยได้รับการดูแลจากภาครัฐเมื่อเทียบกับธุรกิจอื่น และการที่เงินบาทแข็งค่า ทุกบริษัทที่ส่งออกย่อมได้รับผลกระทบรวมถึง HANA" นายอิสรา กล่าว
สำหรับการขยายกำลังการผลิต ขณะนี้มีการขยายกำลังการผลิตที่โรงงานที่อยุธยา และ โรงงานที่ลำพูน คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4/53 และจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 1/54 ซึ่งส่วนขยายจะรองรับการผลิตที่เพิ่มขึ้นได้ประมาณ 1 ปี ดังนั้นปีหน้าจึงมีแผนลงทุนอีก 20-30 ล้านเหรียญ ซึ่งน้อยกว่าปีนี้ที่ใช้งบลงทุน 40 ล้านเหรียญ เนื่องจาก ในปี 54 มีเพียงการซื้อที่ดิน ยังไม่จำเป็นต้องลงทุนเครื่องจักรเพิ่มเติม โดยขณะนี้มองหาซื้อที่ดินเพิ่มในจ.ลำพูน อีก 50-60 ไร่ เพื่อขยายกำลังการผลิตในปี 55