นายเกียรติศักดิ์ วังประเสริฐกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไลฟ์ ทีวี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บมจ.ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น(LIVE) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโต 30% จากปีก่อนที่มีรายได้ 331 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 20%
เนื่องจากบริษัทมีการรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นจากการเปิดช่องทีวีใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง รวมทั้งรายได้จากค่าโฆษณาที่เข้ามากขึ้น โดยเฉพาะการโฆษณาผ่านเคเบิ้ลทีวีที่ปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันบริษัทจะพยายามตัดธุรกิจส่วนที่ไม่สร้างกำไรออกไป ซึ่งคาดว่าบริษัทจะกลับมาทำกำไรและล้างขาดทุนสะสมได้ภายในปี 54
ล่าสุด บริษัทเปิดช่องกีฬา 24 ชม." ฟุตบอลพลัส"รวมแมทช์การแข่งฟุตบอลจากลีคต่างๆ ทั่วโลก และจะมีการถ่ายทอดมากกว่า 10 แมทช์ต่อเดือน และถ่ายทอดการแข่งขันรวม 350 แมทช์ต่อปี ในราคา 199 บาทต่อเดือน คาดว่าจะใช้งบลงทุน 200 ล้านบาท ซึ่งร่วมไปถึงค่าซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดการแข่งขัน และค่าใช้จ่ายในทำกิจกรรมทางการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นผู้บริโภคเป็นสมาชิก
บริษัทคาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้ที่มาจากค่าสมาชิก 70% และที่เหลือจะเป็นรายได้ที่มาจากสปอนเซอร์และค่าโฆษณา นอกจากนี้ยังเป็นการกระตุ้นลูกค้าให้หันมาใช้บริการมากขึ้น 20-30% ในปีแรกและเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยสามารรับชมผ่านเคเบิล ทีวีท้องถิ่นทั่วประเทศ และรับชมในไลฟ์ ทีวี พลัส ผ่านจานดำ (C-Band) ของพีเอสไอ
ก่อนหน้านี้บริษัทได้เปิดช่อง"สปอร์ตพลัส"ไปแล้ว
นายเกียรติชัย กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าในการเปิดช่องเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมให้ครบ 15 ช่องในช่วงกลางปี 54 จากปัจจุบันที่มี 12 ช่อง เพื่อช่วยขยายฐานลูกค้าและยังเป็นการสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นในอนาคต ส่วนการนำบริษัท ไลฟ์ ทีวี เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ตอนนี้ยังไม่มีนโยบาย
"เราจะพยายามรักษาการเป็นอันดับ 1 ในธุกิจทีวีดาวเทียม และการที่เราเปิดช่องใหม่อย่างฟุลบอลพลัส ในเคเบิ้ลและจานดำ จะเป็นการกระตุ้นให้เคเบิ้ลท้องถิ่นมีการขยายตัวมากขึ้น คาดว่าจะทำให้ฐานคนดูเคเบิ้ลเพิ่มขึ้น 20% จากปัจจุบันที่ 3 ล้านครัวเรือน และช่องใหม่ดังกล่าวยังมีราคาถูก"นายเกียรติศักดิ์ กล่าว
นายเกียรติชัย กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจมีเดียในปีนี้ยอมรับว่ามีการแข่งขันที่รุนแรง และมีการเปิดช่องใหม่เกิดขึ้นมาก ซึ่งการมีคอนเทนท์ที่ดีก็จะสามารถดำเนินธุรกิจให้อยู่รอดภายใต้การแข่งขันได้ โดยบริษัทจะมีการปรับปรุงและพัฒนาตัวเองตลอดเวลาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และเพื่อแข่งขันกับรายอื่น นายวิชัย เบญจพลาพร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บมจ.ไลฟ อินคอร์ปอเรชั่น(LIVE)กล่าวว่า ในไตรมาส 3/53 คาดว่าจะขาดทุนลดลงจากไตรมาส 2/53 หลังจากที่มีรายได้เพิ่มขึ้นจากบริษัทลูก รวมทั้ง ค่าโฆษณาเข้ามามากขึ้น รวมทั้งการบริหารจัดการต้นทุน และในไตรมาส 4/53 ก็จะเติบโตต่อเนื่องจากภาพรวมธุรกิจและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ส่งผลให้คาดว่ารายได้ในปีนี้จะอยู่ที่ 400 ล้านบาท