ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นกว่า 250 จุดเมื่อคืนนี้ (1 ก.ย.) ขานรับรายงานภาคการผลิตที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐและจีน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเข้าซื้อหุ้นอย่างคึกคัก แม้มีรายงานว่าภาคเอกชนของสหรัฐลดการจ้างงานในเดือนส.ค.ก็ตาม
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 254.75 จุด หรือ 2.54% ปิดที่ 10,269.47 จุด ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 30.96 จุด หรือ 2.95% ปิดที่ 1,080.29 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 62.81 จุด หรือ 2.97% ปิดที่ 2,176.84 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กและตลาด Nasdaq รวมกันมีอยู่ประมาณ 8.12 พันล้านหุ้น โดยมีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 6 ต่อ 1
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดตลาดดีดตัวขึ้นขานรับรายงานของสมาพันธ์โลจิสติกและการจัดซื้อแห่งชาติของจีนที่ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนส.ค.อยู่ที่ระดับ 51.7% เพิ่มขึ้น 0.5% จากเดือนก.ค.
ตลาดดีดตัวแข็งแกร่งมากขึ้นเมื่อสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนส.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 56.3 จุด จากเดือนส.ค.ที่ระดับ 55.5 จุด ทำสถิติขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 13 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 53.0 จุด โดยภาคการผลิตของสหรัฐขยายตัวติดต่อกันทุกเดือนนับตั้งแต่เดือนส.ค.2552 แม้ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัวลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาก็ตาม
นายหลี่ เหมี่ยวเซียน นักวิเคราะห์จากแบงค์ ออฟ คอมมูนิเคชันส์ อินเตอร์เนชันแนล โฮลดิ้งส์ กล่าวว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนขยายตัวเนื่องจากปัจจัยตามฤดูกาล และคาดว่าดัชนี PMI ขยายตัวขึ้นอีกในเดือนก.ย. ส่วนในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ คาดว่าดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนจะขยายตัวสูงกว่า 50% ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนจะไม่เผชิญกับภาวะชะลอตัว
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้แรงหนุนหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลียเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัว 1.2% ในไตรมาส 2 ของปีนี้ เนื่องจากความต้องการวัตถุดิบของจีนมีส่วนช่วยหนุนอุตสาหกรรมเหมืองแร่ของออสเตรเลียขยายตัวอย่างคึกคัก
ข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของทั้งจีนและสหรัฐ รวมทั้งจีดีพีที่ยังคงขยายตัวได้ดีของออสเตรเลียทำให้นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ และไม่ให้น้ำหนักกับรายงานของ ADP Employer Services ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านตลาดแรงงานในสหรัฐที่ระบุว่า ภาคเอกชนทั่วประเทศสหรัฐลดการจ้างงานลง 10,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. เมื่อเทียบกับเดือนก.ค.ที่เพิ่มการจ้างงาน 37,000 ตำแหน่ง และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าภาคเอกชนจะเพิ่มการจ้างงาน 30,000 ตำแหน่ง
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือนก.ค. และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.ค.
ส่วนวันศุกร์ ISM จะเปิดเผยดัชนีภาคบริการและดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจเดือนส.ค. กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค. โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนส.ค.จะร่วงลง 100,000 ตำแหน่ง
หุ้นแอปเปิล อิงค์ ปิดพุ่ง 3% หลังจากทางบริษัทเปิดตัว iPod เวอร์ชั่นใหม่ ขณะที่หุ้นเจนเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) ปิดพุ่ง 3.7% หุ้นอีตัน คอร์ป ปิดบวก 7.7%
หุ้นกลุ่มเหมืองดีดตัวขึ้นตามราคาโลหะพื้นฐานในตลาดโลก โดยหุ้นฟรีพอร์ต-แมคโมแรน คอปเปอร์ แอนด์ โกลด์ ปิดบวก 5.9% และหุ้นอัลโค ปิดบวก 3%