พ.อ.นที ศุกลรัตน์ กรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ในฐานะประธานกรรมการคณะกรรมการเพื่อการอนุญาตประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ IMT (3G and beyond) กล่าวว่า ขณะนี้ กทช.มีความพร้อม 100% ในการประมูลใบอนุญาต 3G หลังจากมีเอกชน 3 รายเข้ามายื่นคำขอรับใบอนุญาตเมื่อวันที่ 30 ส.ค.และอยู่ในระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติขั้นต้น (Pre-Qualification)
สำหรับกำหนดการสำคัญหลังจากนี้ ได้แก่ วันที่ 7 ก.ย.จะมีการสาธิตการประมูลสำหรับสื่อมวลชน, วันที่ 14 ก.ย.ประกาศรายชื่อผู้ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติขั้นต้น, วันที่ 15-16 ก.ย.ชี้แจงและสาธิตการประมูลสำหรับผู้เข้าร่วมการประมูล, วันที่ 16-17 ก.ย.ตรวจสอบสถานที่ร่วมกับสื่อมวลชน
และเข้าสู่กระบวนการประมูลในวันที่ 20 ก.ย.โดยมีพิธีเปิดและเริ่มการประมูลรอบแรก เวลา 9.00 น.เป็นต้นไป
พ.อ.นที กล่าวว่า การประมูลครั้งนี้ใช้รูปแบบการเปิดประมูลใบอนุญาตพร้อมกันและดำเนินการประมูลแบบหลายรอบ (Simultaneous Multiple Round— SMR) ซึ่งเป็นวิธีการที่ใช้แพร่หลายและประสบความสำเร็จในหลายประเทศ โดยมีการกำหนดกฎการประมูลที่เข้มงวด เช่น การกำหนดระยะเวลาประมูลที่แน่นอนรอบละ 1 ชั่วโมง การกำหนดให้มีการเคาะราคาโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์แบบอินทราเน็ต (Intranet) การกำหนดอัตราการเพิ่มในแต่ละครั้งที่แน่นอนครั้งละ 640 ล้านบาท
ทั้งนี้ ได้ขอความร่วมมือจากหน่วยงานของรัฐที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิเช่น กองบัญชาการกองทัพไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม เพื่อกำหนดมาตรการตลอดระยะเวลาการประมูลอย่างรัดกุม
นอกจากนี้ได้กำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยและป้องกันการทุจริตระหว่างการประมูลอย่างเข้มงวด เช่น การตรวจสอบอาวุธและวัตถุอันตราย การจำกัดการใช้งานเครื่องมือสื่อสารในเขตพื้นที่การประมูล การจำกัดบุคลากรผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่การประมูล การสุ่มเลือกห้องประมูลและรหัสผู้เข้าร่วมการประมูล การสุ่มเลือกผู้ปฏิบัติงานของโรงแรม การกำหนดให้ผู้ปฏิบัติงานของโรงแรมไม่สามารถพบกับผู้เข้าร่วมการประมูลตลอดระยะเวลาการประมูล
การป้องกันการติดต่อสื่อสารทั้งในรูปแบบการใช้อุปกรณ์ หรือ วิธีอื่นๆ ทำให้ผู้เข้าร่วมการประมูลและผู้ปฏิบัติงานไม่ทราบล่วงหน้าว่าผู้ประมูลแต่ละรายจะใช้ห้องประมูลใด หรือ จะปฏิบัติงานกับห้องประมูลใด การเชิญผู้แทนจากหน่วยงานของรัฐ เอกชน และต่างประเทศ ร่วมสังเกตการณ์การประมูล เป็นต้น
คณะกรรมการ 3G พิจารณาแล้วเสนอ โรงแรมเอวาซอนหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นสถานที่จัดการประมูลเนื่องจากเป็นสถานที่ซึ่งสามารถแบ่งสัดส่วนห้องพักและห้องทำการประมูลสำหรับผู้เข้าร่วมการประมูลแต่ละรายเป็นการเฉพาะ รวมทั้งมีระบบการควบคุมการเข้าออกที่มีประสิทธิภาพ