นายชายน้อย เผื่อนโกสุม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายวางแผน บมจ.ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น (PTTAR)ในเครือ ปตท.กล่าวว่า ขณะนี้เครือ ปตท.ได้หยุดการก่อสร้างโครงการโครงการโรงงานผลิตเอทิลีนออกไซด์และเอทิลีนไกลคอน(ส่วนขยาย)ของบริษัท ทีโอซี ไกลคอน จำกัดในเครือ บมจ.ปตท.เคมิคอล(PTTCH)เพื่อรอตรวจสอบคำสั่งศาลปกครองเมื่อวานนี้ว่าจะต้องระงับการก่อสร้างด้วยหรือไม่ เนื่องจากโครงการคืบหน้าไปมากแล้ว
ทั้งนี้ ปตท.ยืนยันว่าพร้อมจะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรค 2 ตามที่องค์กรอิสระเสนอมา ซึ่งในช่วงที่คดีมาบตาพุดอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลนั้น ก็ได้มีการจัดทำรายงานผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน(HIA)ควบคู่ไปด้วยเพื่อให้เกิดความสบายใจกับทุกฝ่าย
อย่างไรก็ตาม กรณีที่โครงการดังกล่าวถูกเพิกถอนในอนุญาตตามคำสั่งของศาลปกครองก็ไม่น่าจะทำให้ล่าช้าจนเกิดผลกระทบต่อการดำเนินงานของ ปตท. เนื่องจากไม่ได้มีกำหนดแล้วเสร็จและเดินเครื่องเร็ว ๆ นี้อยู่แล้ว
นายชายน้อย กล่าวถึงโครงการโรงแยกก๊าซแห่งที่ 6 ว่า ขณะนี้พร้อมเดินเครื่องอยู่แล้ว แต่บริษัทก็จะต้องรอดูขั้นตอนการดำเนินการหลังศาลปกครองมีคำสั่งปลดล็อคเมื่อวานนี้ก่อน
ขณะที่ บทวิเคราะห์ บล.ไอร่า ระบุว่า โครงการของ PTTCH ที่ติดอยู่ในมาบตาพุด เป็นของบริษัทลูก เรียกอีกชื่อว่าโครงการ MEG ส่วนขยาย (MEG Expansion) มูลค่าเงินลงทุน 58 ล้านเหรียญ ซึ่งได้จ่ายไปหมดและหมดภาระลงทุนแล้ว รวมถึงเคยเดินเครื่อง MEG ในปี 51 ก่อนถูกฟ้องร้องในปี 52 ส่วนที่อยู่ท้ายคำฟ้องคือกำลังการผลิตของสว่นขยายเพียงแค่ 95,000 ตันต่อปี ซึ่งน้อยมาก
โครงการดังกล่าวเมื่อคิดประมาณจาก SPREAD ของ Monoethylene Glycol (MEG) กับ Naphtha ที่ 194 เหรียญต่อตันหักค่าใช้จ่าย Processing cost อีกประมาณ 140 เหรียญต่อตัน จะได้ Operating profit จากส่วนขยายประมาณ 54 เหรียญต่อตัน เมื่อคิดกำลังผลิต 95,000 ตัน จะได้ operating Profit จากส่วนขยายเพียงแค่ 5 ล้านเหรียญ หรือ 169 ล้านบาทไทยคิดเป็นประมาณ 1.5% ของกำไรเท่านั้น ผลกระทบจากการที่โครงการดังกล่าวยังคงอยู่ในภาวะระงับการดำเนินงานจึงน้อยมาก
ราคาหุ้น PTTCH บวก 2.91% มาที่ 106.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 274.75 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.26 น.