ขณะเดียวกัน EBITDA Margin ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้อยู่ที่ 34% เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มี EBITDA Margin อยู่ที่ 29% เนื่องจากผลประกอบการของบริษัทเติบโตขึ้น ขณะที่ต้นทุนค่าใช้จ่ายลดลงจากการบริหารจัดการ และในครึ่งปีหลังจะเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลังเป็นไฮซีซั่นของธุรกิจ
ทั้งนี้ ช่วงครึ่งปีหลังบริษัทจะมีการใช้จ่ายงบการตลาดที่มากขึ้น เมื่อเทียบกับในช่วงไตรมาส 2/53 ทีเกิดปัญหาการชุมนุมทางการเมืองและมีวันหยุดมาก ทำให้ไม่ได้มีกิจกรรมการทางตลาด จึงใช้งบการตลาดลดลงจากปกติที่จะใช้งบการตลาดเฉลี่ยไตรมาสละ 5% ของรายได้รวม
สำหรับรายได้เฉลี่ยต่อเลขหมายต่อเดือน(Arpu)น่าจะคงที่ในครึ่งปีหลัง เพราะการแข่งขันคงไม่รุนแรง โดยเฉพาะการแข่งขันทางด้านราคา แต่ก็จะกลับมาแข่งขันในช่วงปีหน้า หลังจากมีเทคโนโลยี 3G และมองว่าในปีนี้จะมีจำนวนเลขหมายโดยรวมเพิ่มขึ้น 4-5 ล้านเลขหมาย ซึ่งบริษัทหวังว่าจะมีส่วนแบ่ง 1 ใน 3 ของจำนวนดังกล่าว
นายชวิต กล่าวต่อว่า บริษัทตั้งงบลงทุน 6 พันล้านบาท ซึ่งไม่รวมเม็ดเงินลงทุนโครงข่าย 3G โดยบริษัทจะนำไปใช้ในการลงทุนขยายเครือข่ายเดิม และ Call Center ซึ่งในครึ่งปีแรกใช้เงินลงทุนไปแล้ว 1.6 พันล้านบาท และที่เหลือจะใช้ลงทุนในครึ่งปีหลัง
"ครึ่งปีหลังคงยังไม่มีอะไร ตอนนี้รอแต่ 3G เกิดขึ้น และเราก็มองว่าในปีหน้าคงเห็นการกลับมาของการแข่งขันของธุรกิจอีกครั้งหาก 3G เกิดขึ้น"นายชวิต กล่าว