CEN ปรับเพิ่มเป้ายอดขาย"ระยองไวร์ฯ"เป็นโต 20-25% ปีนี้ จากเดิม 10%

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 6, 2010 14:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.แคปปิทอล เอ็นจิเนียริ่ง เน็ตเวิร์ค(CEN)ปรับเป้าหมายยอดขาย บริษัท ระยองไวร์อินดัสตรีส์(RWI)ซึ่งเป็นบริษัทลูก หลังโชว์ผลงานโดดเด่นต่อเนื่อง โดยคาดว่ายอดขายจะเติบโตเพิ่มเป็น 20-25% จากเดิม 10% โดยใช้กลยุทธ์ดำเนินธุรกิจเชิงรุกเพิ่มฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น อีกทั้งเตรียมออกสินค้าใหม่ช่วงปลายปีนี้ และมีแผนขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ผนวกกับการนำระบบ ERP (Enterprise Resource Planning:ERP) มาใช้ทำให้การบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรสูงขึ้นด้วย

ปัจจุบัน RWI ดำเนินธุรกิจเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายลวดแรงดึงสูงชนิดเส้นเดี่ยวชนิดตีเกลียวและลวดเชื่อมไฟฟ้า สำหรับใช้ในอุตสาหกรรมโรงหล่อเสาเข็ม สะพานและตึกสูง

นายวุฒิชัย ลีนะบรรจง ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CEN กล่าวว่า RWI ตั้งเป้าหมายการขายจะไต่ขึ้นไปแตะที่ระดับประมาณ 2,000 ล้านบาทได้ภายใน 5 ปี อันเนื่องมาจากนโยบายการบริหารธุรกิจในเชิงรุกมากขึ้น อีกทั้งในช่วงปลายปีนี้ RWI เตรียมที่จะผลิตสินค้าตัวใหม่ออกสู่ตลาดซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจเพราะเป็นสินค้าที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่กำลังขยายตัวอย่างมากและมีกำลังการผลิตมากพอที่จะรองรับความต้องการของตลาดที่ขยายตัวมากขึ้น

“มั่นใจว่าผลการดำเนินงานของบริษัทในรอบบัญชีไตรมาส 3—4 ปีนี้จะเป็นบวกและมีกำไรสุทธิเกิดขึ้นอีกอย่างแน่นอน ประเมินว่ารายได้รวมของ RWI จะขึ้นไปถึงระดับ 850 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมามีรายได้รวมประมาณ 690 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการขยายตัวประมาณ 25% เป็นผลพวงมาจากโครงการไทยเข้มแข็งของรัฐบาล ทำให้ความต้องการใช้เหล็กในประเทศเพิ่มขึ้น ส่งผลให้อุตสาหกรรมเหล็กในประเทศฟื้นตัวชัดเจน สะท้อนได้จากราคาเหล็กเส้นที่มีเสถียรภาพมากขึ้น และบริษัทได้มีบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพโดยใช้ระบบ ERP และมีคณะทำงานคอยติดตามการเปลี่ยนแปลงของราคาวัตถุดิบอย่างใกล้ชิด" นายวุฒิชัย กล่าว

นายวุฒิชัย เปิดเผยอีกว่า ขณะ RWI นี้มีโครงการผลิตสินค้าตัวใหม่ออกสู่ตลาดอุตสาหกรรมก่อสร้างและการผลิต ซึ่งกำลังเติบโตอย่างมากในปัจจุบัน บริษัทได้มีการสำรวจตลาดจนมั่นใจว่าสินค้าดังกล่าวจะได้รับการ ตอบรับที่ดีจากลูกค้าและผู้ประกอบการอย่างแน่นอน และตั้งเป้าที่จะเติบโตในธุรกิจนี้ในระยะยาวและคาดว่าพร้อมลงลุยในอุตสาหกรรมดังกล่าวอย่างเต็มที่ในปี 54 และปีต่อๆไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ