นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริการ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)(KEST)เปิดเผยว่า บริษัทได้จัดตั้งบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.)กิมเอ็ง(ประเทศไทย) หรือ KEAT เพื่อเสริมบริการด้านลงทุนให้ครบวงจรและสร้างผลตอบแทนสูงสุดให้กับลูกค้า ซึ่งจะมีการออกกองทุนแรก คือ กองทุนเปิดกิมเอ็งบริหารเงิน(KECASH)มูลค่า 5 พันล้านบาท เน้นลงทุนตราสารภาครัฐไทยระยะสั้น อายุไม่เกิน 1 ปี เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศ และ ตราสารหนี้ภาคเอกชน คาดว่าจะเสนอขายหน่วยลงทุนวันที่ 14-22 ก.ย.นี้
อนึ่ง KEAT มีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท KEST ถือหุ้น 100%
กองทุน KECASH ที่เสนอขายให้นักลงทุนทั่วไป และลูกค้าของบริษัท มองว่ากองทุนนี้จะเป็นที่พักเงินของลูกค้าได้ เพราะหากเทียบกับเงินฝากแล้วให้ผลตอบแทนทีดีกว่า โดยให้ผลตอบแทนประมาณ 0.88% และไม่ต้องเสียภาษี ขณะที่เงินฝากออมทรัพย์อยู่ที่ 0.75% และต้องเสียหายภาษี 15%
ความพิเศษของกองทุนคือ สามารถใช้เป็นหลักประกันวงเงินการซื้อขายหุ้นได้ (15% ของวงเงิน)ลูกค้าสามารถนำเงินจากการซื้อขายหลักทรัพย์สามารถโอนเงินขายหลักทรัพย์มาซื้อหน่วยลงทุนหรือขายหน่วยลงทุนเพื่อโอนไปชำระค่าซื้อหลักทรัพย์โดยอัตโนมัติได้ สร้างความสะดวกสบายให้ลูกค้า คาดว่าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการประมาณ 1.5-2.0 พันล้านบาทภายในปีนี้ ขณะที่บริษัทมีเงินฝากหลักประกันหุ้นไม่น้อยกว่า 5-6 พันล้านบาท/ปี
นายพงศ์พันธุ์ อภิญญากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.กิมเอ็ง กล่าวว่า บริษัทมีแผนจะออกกองทุนเพิ่มอีก 4 กองทุน ภายใน 12 เดือนข้างหน้า ได้แก่ กองทุนตราสารหนี้ลงทุนในต่างประเทศ เน้นภูมิภาคเอเชีย คาดว่าจะมีอัตราผลตอบแทนสูง, กองทุนหุ้นในประเทศ, กองทุนออมเงินระยะยาว เน้นลงทุนในประเทศ เช่น พันธบัตรหรือหุ้นกู้ และ กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ เน้นลงทุนในเกาหลีใต้และอินเดีย มูลค่าโครงการรวมกว่า 7-8 พันล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ามีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร(AUM) 4-5 พันล้านบาทภายในปีแรก