นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) (KEST) คาดว่า รายได้และกำไรของบริษัทในไตรมาส 3/53 จะดีกว่าไตรมาส 2/53 ตามทิศทางมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ต่อวันของตลาดรวมเพิ่มขึ้นในช่วงต้นครึ่งปีหลังเป็นกว่า 3 หมื่นล้านบาท/วัน จากกว่า 2 หมื่นล้านบาท/วันในไตรมาส 2/53 รวมทั้งบริษัทมีรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจวาณิชธนกิจ 4-5 ดีลเข้ามาเสริม
บริษัทคาดว่าทั้งปี 53 วอลุ่มเฉลี่ยน่าจะสูงขึ้นจากปีก่อน ซึ่งบริษัทคาดว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาด(มาร์เก็ตแชร์)ประมาณ 12.5-13.0% จากปัจจุบันอยู่ที่ 12.5% แล้ว และมองว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยในปีนี้อาจจะไปถึง 1,000 จุด หลังจากมีการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศ และภาวะเศรษฐกิจของไทยในปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 8% ประกอบกับ การบริโภคของภาคเอกชนและปัญหามาบตาพุดที่คลี่คลายไปได้ มีส่วนสนับสนุนให้การลงทุนเพิ่มขึ้น
นอกจากนั้น ตลาดหุ้นไทยเองก็มีความแข็งแกร่งมาก จากการที่นักลงทุนมีความมั่นใจในตลาดหุ้นเอเชีย โดยเฉพาะประเทศไทยมีสถาบันการเงินที่มีความแข็งแรง ประกอบกับ เงินบาทแข็งค่าขึ้นมาก
นายมนตรี กล่าวอีกว่า KEST ยังมีแผนออกตั๋วแลกเงิน(BE)เสนอขายให้นักลงทุนทั่วไป โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นข้อมูลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) คาดว่าจะเสนอขายได้ภายในไตรมาส 4/53 และบริษํทยังมีแผนออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW)ภายในปีนี้ด้วย