บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ หรือ ซื้อเก็งกำไร"หุ้น ธนาคารกรุงไทย(KTB)เนื่องจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน(FDIF)มีแผนขาย KTB จากที่ถืออยู่ 55.31% ทั้งแบบเฉพาะเจาะจงหรือเปิดประมูล (ประชุม 15 ก.ย.)จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นการขายเพียงบางส่วนและไม่ถึงขั้นต้องทำ Tender Offer แม้ว่า FDIF จะต้องปิดตัวลงในปี 2556 ก็ยังสามารถโอนหุ้นไปให้กระทรวงการคลังได้ ราคาขายตามข่าวที่ 20 บาทมีความเป็นไปได้ เพราะคิดเป็น 1.8 — 2.0 เท่าของ Book value สำหรับราคาพื้นฐานให้ไว้ที่ 15.70 บาท
ด้าน บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)แนะ"ซื้อเก็งกำไร"หุ้น KTB ให้ราคาเหมาะสม 15.20 บาท ล่าสุดประกาศร่วมทุนกับกลุ่ม CP ทำธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในจีน โดย KTB จะเข้าถือหุ้น 50% หลังจากที่ทางการจีนอนุญาตให้กลุ่มซีพี สามารถทำธุรกิจธนาคารในจีนได้แล้ว โดยจะจัดตั้งสำนักงานใหญ่ในเซี่ยงไฮ้ เพื่อให้บริการด้านการเงินแก่กลุ่มลูกค้าของเจียไต๋ในจีนเป็นหลัก
ทั้งนี้ คาดว่าผลการดำเนินงาน 3Q53 ของ KTB น่าจะเห็นการเติบโตของกำไรสุทธิ yoy และ qoq โดดเด่นที่สุดในกลุ่ม หากไม่มีการตั้งสำรองพิเศษเข้ามา เพราะเป็นไตรมาสที่ KTB จะรับรู้เงินปันผลจากกองทุนวายุภักษ์ ตามมาด้วยยอดสินเชื่อที่คาดว่าจะเติบโตอย่างโดดเด่น จากการเร่งการใช้จ่ายของภาครัฐ ภายใต้โครงการไทยเข้มแข็ง 2 รวมถึงการขึ้นอัตราดอกเบี้ย RP1 วันถึง 2 ครั้งใน 3Q53 เชื่อว่าจะช่วยให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) ของ KTB จะทรงตัวในเกณฑ์ที่ดีต่อไป
ล่าสุด เมื่อ 6 ก.ย.53 หุ้น KTB ปิดที่ 14.40 บาท ลดลง 0.30 บาท(-2.04%)มูลค่าซื้อขาย 1,881.27 ล้านบาท