ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กวิตกเสถียรภาพแบงค์ยุโรป ฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 107.24 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 8, 2010 06:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงมากกว่า 1%เมื่อคืนนี้ (7 ก.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของธนาคารในยุโรป ซึ่งความกังวลดังกล่าวส่งผลให้หุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มการเงินถูกเทขายอย่างหนัก นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันหลังจากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด รายงานว่าดัชนีการจ้างงานในสหรัฐชะลอตัวลงในเดือนส.ค.

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 107.24 จุด หรือ 1.03% ปิดที่ 10,340.69 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 12.67 จุด หรือ 1.15% ปิดที่ 1,091.84 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 24.86 จุด หรือ 1.11% ปิดที่ 2,208.89 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กและตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 6.07 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 3 ต่อ 1

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงเนื่องจากกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของธนาคารในยุโรป หลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า ในการทดสอบภาวะวิกฤติ (stress test) ของธนาคาร 91 แห่งในยุโรปเมื่อวันที่ 23 ก.ค.นั้น มีธนาคารบางแห่งถือครองตราสารหนี้ของรัฐบาลในระดับที่ต่ำเกินไป รวมทั้งรายงานของสมาคมธนาคารของเยอรมนีที่ระบุว่า ธนาคารขนาดใหญ่อย่างน้อย 10 แห่งของเยอรมนีอาจต้องระดมทุนเพิ่มอีกราว 1.05 แสนล้านยูโร เพื่อให้ตรงตามข้อกำหนดของคณะกรรมการกำกับดูแลภาคการธนาคารของสหภาพยุโรป (CEBS)

ผลการทดสอบภาวะวิกฤตของธนาคาร 91 แห่งในครั้งนั้นพบว่า มีธนาคารเพียง 7 แห่งในยุโรปที่ไม่ผ่านการทดสอบ ซึ่งได้แก่ธนาคารไฮโป เรียลเอสเตท โฮลดิ้ง ของเยอรมนี ธนาคารเอทีอีของกรีซ ส่วนธนาคารอีก 5 แห่งเป็นของสเปน ได้แก่ ธนาคาร Diada, Unnim, Espiga, Banca Civica และ Cajasur โดยธนาคารเหล่านี้ไม่สามารถผ่านการทดสอบการเพิ่มความแข็งแกร่งของเงินกองทุนขั้นที่ 1 (Tier 1 capital) เนื่องจากมีอัตราส่วนทุนต่อสินทรัพย์ต่ำกว่าระดับอ้างอิงขั้นต่ำของ CEBS ที่ 6% จึงทำให้ธนาคารเหล่านี้ต้องระดมทุนเป็นเงินรวมกันมูลค่า 3.5 พันล้านยูโร หรือ 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีการจ้างงานประจำเดือนส.ค.ของสหรัฐ ร่วงลงสู่ระดับ 96.7 จุด จากเดือนก.ค.ที่ระดับ 97.4 จุด บ่งชี้ว่าอัตราการขยายตัวด้านการจ้างานจะยังคงชะลอตัวต่อเนื่องในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า

อัตราว่างงานเดือนส.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 9.6% จากระดับ 9.5% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวสูงขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน สะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มนายจ้างในสหรัฐยังคงลังเลที่จะจ้างงานท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ยังขาดเสถียรภาพ

สำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนีรายงานว่า ยอดสั่งซื้อในอุตสาหกรรมการผลิตของเยอรมนีหดตัวลง 2.2% ในเดือนก.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% เนื่องจากดีมานด์สินค้าทั้งภายในและต่างประเทศชะลอตัวลง

หุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มธนาคารดิ่งลงอย่างหนัก โดยหุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรส ปิดร่วง 4.1% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ปิดร่วง 2.3%

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ ธนาคารกลางสหรัฐจะเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจหรือ Beige Book วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนก.ค. ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนก.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ