BAT-3K เล็งรักษากำไรปีนี้ใกล้เคียงปีก่อน คงเป้ารายได้ 4.5 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 8, 2010 14:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวีรวัฒน์ ขอไพบูลย์ กรรมการ บมจ.ไทยสโตเรจ แบตเตอรี่(BAT3K) ระบุว่า บริษัทจะพยายามรักษากำไรในปีนี้ให้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีกำไรราว 302 ล้านบาท แม้ว่าในครึ่งปีแรกจะมีผลขาดทุน 1.95 ล้านบาท โดยบริษัทคงเป้ารายได้ในปีนี้ไว้ที่ 4.5 พันล้านบาท โดยคาดว่าครึ่งหลังรายได้จะปรับตัวดีขึ้นตามภาพรวมธุรกิจ

พร้อมกันนั้น บริษัทจะรับรู้รายได้จากสินค้าใหม่ที่ออกวางตลาดในไตรมาส 3/53 และมีการบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งหากมีกำไรได้ตามเป้าหมาย ก็คาดว่าบริษัทจะจ่ายเงินปันผลได้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่จ่าย 4.50 บาท/หุ้นด้วยเช่นกัน

"ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 ยอดขายจะดีขึ้น กำไรก็น่าจะดีขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ โดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศ ที่จะมีการเปลี่ยนแบตเตอรี่ในช่วงนี้"นายวีรวัฒน์ กล่าว

กรรมการ BAT-3K ระบุว่า แบตเตอรี่รถยนต์รุ่นใหม่เป็นประเภท sealed maintenance free จะเริ่มส่งออกไปจำหน่ายในไตรมาส 3/53 เน้นเจาะตลาดยุโรป และทำตลาดในประเทศบางส่วน มีกำลังการผลิต 5 หมื่นลูก/เดือน ซึ่งคาดว่าจะทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 35% จากปัจจุบันอยู่ที่ 30% โดยจะมีสัดส่วนรายได้ราว 20% ของรายได้รวม

ทั้งนี้ บริษัทเชื่อว่าสินค้าใหม่ดังกล่าวจะสร้างรายได้ให้กับบริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 54 โดยหากตลาดมีความต้องการสินค้าดังกล่าวเพิ่มขึ้นก็พร้อมจะปรับเพิ่มการผลิตจาก 5 หมื่นลูก/เดือน เป็น 7 หมื่นลูก/เดือน

นายวีรวัฒน์ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทมีการลดสต็อกสินค้าคงเหลือไม่ให้เกิน 20 วัน จากในอดีตที่ 60 วัน เพื่อลดความเสี่ยงความผันผวนของราคาวัตถุดิบ อย่างไรก็ตาม คาดว่าราคาตะกั่ว ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตแบตเตอรี่จะปรับขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ประเมินว่าสิ้นปี 53 ราคาตะกั่วน่าจะอยู่ที่ 2,300 เหรียญ/ตัน จากปัจจุบัน 2,150 เหรียญ/ตัน

อย่างไรก็ตามม บริษัทมีแผนปรับขึ้นราคาขายสินค้าในต่างประเทศ ให้สอดคล้องกับราคาตะกั่วที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่สำหรับราคาขายในประเทศยังไม่มีการปรับ แต่หากราคาตะกั่วขึ้นไปที่ 2,300 เหรียญ/ตันก็จะมีการกลับมาพิจารณายื่นเรื่องเสนอไปยังกระทรวงพาณิชย์เพื่อขอปรับขึ้นราคาขาย แต่มองว่าหากราคาตะกั่วไม่ทะลุ 2,500 เหรียญ/ตันก็คงไม่กระทบกับบริษัทมาก

ปัจจุบัน กำลังการผลิตสินค้าเดิมของบริษัท 3 แสนลูก/เดือน ซึ่งอาจจะปรับเพิ่มขึ้นมาได้เต็มที่เป็น 3.5 แสนลูกโดยไม่ต้องลงทุนใหม่ ขณะที่งบลงทุนปีนี้ตั้งไว้ 100 ล้านบาท ใช้ไปแล้วในการปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องจักร

นายวีรวัฒน์ ยังกล่าวกรณีที่นาย KATIA ABOUD ABD EL MASIH เข้ามาเก็บหุ้น BAT-3K ในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มเป็น 25% จากเดิมถือ 5% เพื่อลงทุนในระยะยาว แต่เท่าที่ได้พูดคุยกันแล้วได้รับการชี้แจงไม่ต้องการมีส่วนร่วมในการบริหาร หรือส่งตัวแทนมาเป็นกรรมการ โดยบุคคลดังกล่าวเป็นคู่ค้าของบริษัทในตะวันออกลางอยู่แล้ว เชื่อว่าจะช่วยทำการตลาดในพื้นที่นั้นได้ดีขึ้น ซึ่งที่ผู้ซื้อไม่มีวัตถุประสงค์จะทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ แม้ว่าจะก็ทำให้สภาพคล่องของหุ้น BAT-3K หายไปมาก แต่ก็จะเป็นผลดีต่อบริษัทในการเจาะตลาดตะวันออกกลาง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ