บมจ.เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน(BWG) คาดว่าผลประกอบในปี 53 จะพลิกเป็นกำไร จากปีก่อนที่มีผลขาดทุนราว 43 ล้านบาท โดยบริษัทมองว่าจะมีโอกาสทำรายได้เกินกว่าเป้าหมาย เนื่องจากปริมาณขยะที่ส่งเข้ามาให้บริษัทบริหารและกำจัดกากอุตสาหกรรมมีมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะภาครัฐผลักดันให้ผู้ประกอบการนำขยะเข้าสู่ระบบบำบัดที่ได้มาตรฐาน
นายเอกรินทร์ เหลืองวิริยะ รองกรรมการผู้จัดการ BWG กล่าวว่า รายได้จะเติบโตกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ที่ 25% จากปีก่อนที่ทำได้ 592.05 ล้านบาท หลังจากภาครัฐสนับสนุนให้ผู้ประกอบการนำขยะอุตสาหกรรมเข้าสู่ระบบบำบัดที่ได้มาตรฐาน ซึ่งปัจจุบันโรงงานที่นำขยะเข้าสู่ระบบบำบัดแล้ว 85-90% ประกอบกับ ปริมาณขยะที่เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่ำ 15-20% จากปีก่อน นอกจากนั้น ยังได้ประโยชน์จากโครงการมาบตาพุดที่มีความคืบหน้ามากขึ้น
"รายได้คิดว่าแนวโน้มปีนี้น่าจะเพิ่มขึ้นตามปริมาณกากอุตสาหกรรม และการส่งเสริมของกรมโรงงานที่มีการผลักดันให้บริษัทต่าง ๆ เข้าสู่ระบบมากขึ้น" นายเอกรินทร์ กล่าว
ในส่วนของธุรกิจการกำจัดขยะชุมชน หลังจากเข้ารับงานให้กับเทศบาลนครราชสีมาแล้ว ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับทางจังหวัดและเทศบาลแห่งอื่น ๆ ซึ่งขณะนี้มี จ.ระยอง และ ภูเก็ตที่สนใจจะว่าจ้างให้บริษัทเข้าไปบำบัดขยะ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในปีนี้ มูลค่าโครงการเบื้องต้นไม่ต่ำกว่าโครงการละ 200-300 ล้านบาท
ส่วนการขยายงานไปยังต่างประเทศ ขณะนี้ได้มีการประสานกับประเทศพม่า คาดว่าปลายปีจะเห็นความชัดเจน หลังจากประเทศพม่าผ่านพ้นการเลือกตั้งไปแล้ว และบริษัทยังสนใจขยายงานไปประเทศอื่น ๆ ได้แก่ อินโดนีเซีย ภูฏาน บังคลาเทศ จอร์แดน และ โอมาน
"โอมานมีโอกาสมากสุด...คิดว่าพม่าในปีนี้จะเห็นความชัดเจน ก็รอเขาเลือกตั้งรัฐบาลเสร็จ คิดว่ามีโอกาสได้งานมาก เพราะเราประสานงานกับรัฐบาลโดยตรง"นายเอกรินทร์ กล่าว
ขณะนี้บริษัทในอัตราการใช้กำลังการผลิตเพียง 60-7% ดังนั้น หากอุตสาหกรรมเติบโตขึ้นก็ยังสามารถรองรับได้โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนเพิ่ม
นายวันชัย เหลืองวิริยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัคคีปราการ กล่าวว่า ผลประกอบการในปีนี้เริ่มดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4/52 แนวโน้มก็น่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ปี 54 ทุนจดทะเบียน 110 ล้านบาท โดยวัตถุประสงค์การระดมทุนเพื่อนำมาซ่อมแซมเตาเผา ปรับปรุงประสิทธิการทำงานของบริษัท และดูแลระบบขนส่ง