จับตาหุ้นเด่นวันนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 14, 2010 09:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

*ITD-STEC-CK-TTCL-LPN-PS-AP-RCL-THAI-TSTH-TVO

-นสพ.รายงาน ค่าเงินบาทแข็ง ดันกลุ่มนำเข้าวัตถุดิบ เครื่องจักรจากต่างประเทศและที่มีรายได้หลักในประเทศ รวมถึงกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง-อสังหาริมทรัพย์ได้ประโยชน์ ส่วนกลุ่มเหล็กได้ประโยชน์จากต้นทุนวัตถุดิบที่เป็นสกุลเงินดอลลาร์ จึงแนะนำซื้อหุ้น ITD-STEC-CK-TTCL-LPN-PS-AP-RCL-THAI-TSTH และ TVO

*KTB

-นสพ.รายงาน ธปท.ศึกษาแผนขายแบงก์กรุงไทยก่อนเสนอคลัง ส่วนประชุมวันที่ 15 ก.ย.นี้ กองทุนฯ ระบุเป็นหมายลับ มีทั้งเคลียร์หนี้นครหลวงไทย และซีไอเอ็มบีที หลังขายให้นักลงทุนรายใหม่ไปแล้ว ขณะที่คลังและแบงก์ชาติอยากให้กองทุนลดสัดส่วนการถือหุ้นให้ต่ำกว่า 50%

*BJC

-นสพ.รายงาน มีเฮหลังคาร์ฟูร์สัญชาติฝรั่งเศสประกาศผ่านรอบ 2 ด้านโบรกประเมินการซื้อคาร์ฟูร์ทำให้ BJC เข้าถึงลูกค้าง่ายขึ้นคาดกำไรโตแข็งแกร่ง และมีอัพไซด์จากการเข้าซื้อกิจการ และมีโอกาสจะเข้าอยู่ใน SET50 ในรอบหน้า มีเสน่ห์กับกองทุนขนาดใหญ่จึงปรับเป้าหมายเป็น 24.80 บาทจาก 22.40 บาท ส่วนเทคนิคลุ้นแตะ 18.30 บาท

*TGCI

-นสพ.รายงาน ลุ้นสัปดาห์นี้ TGCI เซ็นสัญญาอัดฉีดงบกว่า 3 พันล้านบาท จ้างบริษัทลูก CEN ก่อสร้างโรงงานกระเบื้องเซรามิกสยายปีกธุรกิจรองรับความต้องการอุตสาหกรรมก่อสร้าง ด้านบิ๊ก SCC "กานต์ ตระกูลฮุน" ผู้ถือหุ้นใหญ่มองครึ่งหลังธุรกิจเซรามิกสดใส แย้มสร้างโรงงานใหม่เสริมทัพไม่แปลกหากเข้าไฮซีซั่นแท้จริง

*FSS, SSEC

-นสพ.รายงาน FSS ซุ่มเงียบรอจังหวะตะคลุบ SSEC หาก TCRB พลาดดีลซื้อ SICCO ไม่สำเร็จ ลั่นไม่หวั่นถ้า SCB ไม่ขายแบบแยกพอร์ตลั่นยังมีหนทางอีกเพียบ ขณะที่กำไรไตรมาส 3/53 สดใสรับอานิสงส์ฝรั่งสะสมหุ้นไทยกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท หนุนกำไรทั้งปีโตก้าวกระโดด

*PICO

-นสพ.รายงาน ไตรมาส 3 ฟื้นกำไรเหตุรายได้รวมและกำไรขั้นต้นเพิ่มจากการรับรู้รายได้ธุรกิจด้านการสื่อสารองค์ความรู้ ด้าน "ทาพาโก้" งวดนี้ผลงานหดเกือบ 8% เหตุมาร์จิ้นลดแม้ยอดขายเติบโต

*SITHAI

-นสพ.รายงาน ประกาศกร้าว 29 กันยายน นี้บินตรงอินเดียซื้อที่ดินตั้งโรงงานผลิตสินค้าเมลามีนร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่นคาดถือหุ้นใหญ่ 70% ฟุ้งครึ่งปีหลังสุดอลังการหลังกำลังการผลิตพุ่งเกิน 90% เร่งปั๊มยอดขายตะวันออกกลาง พร้อมโชว์แจกพอตใหญ่รับผลิตแพ็กเกจจิ้งให้ 2 ค่ายดัง TUF-CPALL

*STEEL

-นสพ.รายงาน เผยสิ้นปีนี้ได้เห็นความชัดเจนจับมือโซลาร์ เพาเวอร์ เชื่อดันรายได้ปีหน้าพุ่งกระฉูด ส่วนทิศทางครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรกชัวร์ หลังเล็งเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยไปได้สวยพร้อมเร่งเครื่องเดินสายประมูลงานอย่างต่อเนื่อง ระบุได้อานิสงส์ทางอ้อมจากโครงการมาบตาพุดคืนชีพ

*SMIT

-นสพ.รายงาน ทุ่มงบ 20 ล้านบาท เร่งตอกเสาเข็มสายการผลิตใหม่ รับมือออเดอร์ล้นมือ บอสใหญ่ "ชัยศิลป์ แต้มศิริชัย" คาดต้นปีหน้ารันเครื่องผลิตแล้ว ยิ้มแป้น Q3/53 โตกว่าไตรมาสก่อน

*กลุ่มแบงก์

-นสพ.รายงาน แบงก์แถบเอเชียพอใจขานรับกฎใหม่บาเซิลทรี ให้เพิ่มเกณฑ์ดำรงเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงแบงก์กว่า 3 เท่า เป็น 7% จากเดิม 2% เหตุผู้เล่นส่วนใหญ่มีเงินกองทุนสูงกว่าขั้นต่ำสุด ด้านนักวิเคราะห์ชี้กฎใหม่เป็นโอกาสแบงก์ในเอเชียระบายทุนส่วนเกินขยายธุรกิจต่อเนื่อง ตรงข้ามสถาบันการเงินยุโรปมีแนวโน้มได้ผลกระทบมากกว่า

*ROBINS

-นสพ.รายงาน จับมือกับบริษัท เฟเรซ่า เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด นำเข้าเครื่องสำอางชื่อดังภายใต้แบรนด์ คลีโอ โอนลี่ แอด โรบินสัน เข้ามาจำหน่ายภายในห้างสรรพสินค้าโรบินสันเพียงแห่งเดียวเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้หญิงไทยที่ต้องการแต่งหน้าสไตล์เกาหลี

*GRAMMMY

-นสพ.รายงาน จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ทุ่มงบกว่า 80 ล้านบาท ผุดเทศกาลดนตรี "บิ๊กเมาน์เทน มิวสิก เฟสติวัล" เทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ภายใต้สโลแกน "มัน ใหญ่ มากก" ก่อนยกระดับสู่การจัดงานเทศกาลดนตรีระดับนานาชาติ ด้านโบนันซ่า เขาใหญ่เตรียมสถานที่และเพิ่มจำนวนห้องพักรองรับกองทัพนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะมาร่วมงานกว่า 35,000 คน

*CPF

-นสพ.รายงาน ไตรมาส 3 ยอดขายพุ่ง 4.9 หมื่นล้านบาท แถมกำไรก่อนหักภาษีพุ่ง 5.4 พันล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังอัตรากำไรขั้นต้นขยับเป็น 20% พร้อมรับรู้กำไรจากการขายหุ้นอีก 700 ล้านบาท ด้าน “บล.เจพี มอร์แกน" มั่นใจกำไร 9 เดือนคิดเป็น 86% ของยอดกำไรรวมทั้งปี เป้าหมาย 35 บาท

*CK, ITD, STEC

-นสพ.รายงาน หุ้นรับเหมาก่อสร้างคึก รฟม. ส่งซิกเซ็นสัญญาสายสีน้ำเงินพร้อมกันทีเดียว 5 สัญญา ภายในเดือนนี้ หลังตรวจสอบคุณสมบัติไม่มีปัญหา เหลือเพียงต่อรองราคาขั้นสุดท้าย CK เด่นสุดได้ 2 สัญญา ส่วน STEC แนวโน้มดีไม่แพ้กัน แถมมีลุ้นสายสีชมพู-สีเขียว-สายสีแดงเพิ่มอีก

*กลุ่มน้ำมัน

-นสพ.รายงาน ผู้ค้าฯ อ้างราคาน้ำมันตลาดโลกขยับขึ้น ทำให้ไม่สามารถปรับลดราคาขายปลีกในประเทศไทย แม้บาทจะแข็งค่าขึ้นในขณะนี้ ระบุค่าการตลาดขณะนี้เฉลี่ยที่ 1.4-1.5 บาทต่อลิตร

*กลุ่มปูนซิเมนต์, แบตเตอรี่

-นสพ.รายงาน กรมการค้าภายในระบุเงินบาทแข็งค่าส่งผลให้สินค้าหลายรายการได้รับประโยชน์อาทิ ผลิตภัณฑ์นมผงเด็ก แบตเตอรี่รถยนต์ ปูนซีเมนต์ ปุ๋ยเคมี ยากำจัดศัตรูพืช ดังนั้น หลังวันที่ 20 ก.ย.53 จะเรียกผู้ผลิตสินค้าที่ได้รับผลดีจากค่าเงินบาทแข็งดังกล่าวมาพิจารณาในรายละเอียดว่าสินค้าใดที่ควรต้องปรับลดราคาลงทันทีหรือรายการใดยังคงราคาได้ระยะหนึ่ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ