นายนิพนธ์ จัยสิน กรรมการผู้จัดการ บมจ.คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ราวไตรมาส 4/53 โดยแผนระดมทุน 100 ล้านบาทจากการเสนอขายหุ้นครั้งแรกให้แก่ประชาชนทั่วไป(IPO) โดยมี บล.ฟินันเซีย ไซรัส ที่ปรึกษาการระดมทุนครั้งนี้
บริษัทมีแผนนำเงินที่ได้รับจากการระดมทุนไปใช้ซื้อเครื่องจักรใหม่ประมาณ 50 ล้านบาท ส่วนที่เหลือนำไปใช้ขยายโรงงานเพื่อผลิตหม้อแปลงแรงดันสูง 2-3 หมื่น KVA จาก 8,500 KVA เพื่อรองรับการรับงานจากการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.)ที่จะมีการฝังสายไฟลงใต้ดินตามแนวรถไฟฟ้า มูลค่าโครงการประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท โดยมีระยะเวลาก่อสร้างใน 5 ปีข้างหน้า ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาและคิดว่าจะได้รับงานดังกล่าว
บริษัทมีทุนจดทะเบียน 150 ล้านบาท มูลค่าต่อหุ้น 10 บาท ปัจจุบัน กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ นายพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ถือหุ้น 80-90% ซึ่งหุ้นจำนวนดังกล่าวคาดว่ากระจายให้ผู้ถือหุ้นรายย่อย 25-30%
ปัจจุบันผลประกอบการของบริษัทในปี 53 คาดว่าจะใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีรายได้ 500 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมือง ทำให้อุตสาหกรรมหม้อแปลงไฟฟ้าชะลอลง แต่คาดว่าในปีหน้าจะกลับมาฟื้นตัวขึ้น หากสถานการณ์ทุกอย่างเป็นปกติ
นายนิพนธ์ กล่าวว่า การส่งออกในปีนี้มีสัดส่วนน 28% ของรายได้ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 22-23% โดยประเทศที่เป็นตลาดหลัก คือ ออสเตรเลียและมาเลเซีย ซึ่งบริษัทจะมีแผนขยายการส่งออกไปยังประเทศในกลุ่มอาเซียนทั้งฟิลิปปินส์และพม่า
"ปีนี้รายได้ก็คิดว่าใกล้เคียงกับปีก่อน เนื่องจากได้รับผลกระทบทางการเมือง ในอนาคตเราจึงจะเน้นเจาะตลาดต่างประเทศมากขึ้นเพื่อลดความเสี่ยง ปัจจุบันตลาดหลักคือออสเตรเลียและมาเลเซีย และมีแผนจะขยายไปในฟิลิปปินส์และพม่า ในพม่าเรามีพันธมิตรอยู่ เขาซื้อเทคโนโลยีของเราไป คาดว่าจะเห็นความชัดเจนหลังปัญหาทางการเมืองของพม่าสงบลง"นายนิพนธ์ กล่าว
ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือ 180-200 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 80% ทีเหลือทยอยรับรู้ฯ ในปีหน้า