ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กวิตกทิศทางเศรษฐกิจยุโรป ถ่วงดาวโจนส์ปิดลบ 17.64 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 15, 2010 06:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (14 ก.ย.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจยุโรป หลังจากมีรายงานว่าความเชื่อมั่นของกลุ่มนักลงทุนในเยอรมนีหดตัวลงอย่างหนักในเดือนก.ย. และดัชนีภาคการผลิตของ 16 ประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรปทรงตัวในเดือนก.ค. อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปรับตัวลงเพียงเล็กน้อยเพราะตลาดได้แรงหนุนจากรายงานยอดค้าปลีกที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 17.64 จุด หรือ 0.17% แตะที่ 10,526.49 จุด ดัชนี S&P 500 ขยับลง 0.80 จุด หรือ 0.07% ปิดที่ 1,121.10 จุด และดัชนี Nasdaq ดีดขึ้น 4.06 จุด หรือ 0.18% ปิดที่ 2,289.77 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กและ Nasdaq มีอยู่ราว 7.2 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 1.2 ต่อ 1

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากเปิดทำการซื้อขายได้ไม่นาน ขานรับรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดค้าปลีกเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 0.4% มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.3% และยังปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 5 เดือน เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของยอดขายน้ำมันเบนซินที่สถานีบริการทั่วประเทศและยอดขายเสื้อผ้าที่ปรับตัวขึ้นด้วยเช่นกัน

รวมทั้งรายงานที่ว่า สต็อกสินค้าคงคลังในภาคธุรกิจเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 1.0% สู่ระดับ 1.38 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2552 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.5% เนื่องจากยอดขายในภาคเอกชนขยายตัวแข็งแกร่ง โดยสต็อกสินค้าคงคลังในภาคธุรกิจเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ซึ่งตัวเลขดังกล่าวมีอิทธิพลต่อวงจรทางธุรกิจและการขยายตัวของเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ ยอดค้าปลีกที่ทะยานขึ้นแข็งแกร่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มค้าปลีกเดินหน้าขึ้น โดยหุ้นเมซี อิงค์ ปิดบวก 2.9% หุ้นเจซี เพนนี ปิดพุ่ง 7.4% และหุ้นเบสท์บายปิดบวก 6%

แต่ในช่วงบ่าย ดัชนีดาวโจนส์เริ่มถอยร่นลงมาเคลื่อนไหวในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางของเศรษฐกิจในยุโรป หลังจาก ZEW Center ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจในยุโรประบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มนักลงทุนในเยอรมนีร่วงลงสู่ระดับ -4.3 จุดในเดือนก.ย.ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2552 จากระดับ +18.3 จุดในเดือนส.ค.

ขณะที่ยูโรสแตท (Eurostat) ซึ่งเป็นสำนักงานสถิติของสหภาพยุโรป (อียู) เปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของ 16 ประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรทรงตัวในเดือนก.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะดีดตัวขึ้น 0.2% หลังจากร่วงลง 0.2% ในเดือนมิ.ย.

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยราคานำเข้าและส่งออกเดือนส.ค.ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนก.ย.และข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.

วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค. และเฟดจะเปิดเผยผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนก.ย. ส่วนวันศุกร์ สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค.และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนก.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ