หุ้น SEAFCO ราคาวิ่งขึ้น 3.67% มาอยู่ที่ 5.65 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท มูลค่าซื้อขาย 11.59 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.04 น. โดยเปิดตลาดที่ 5.60 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 5.70 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 5.60 บาท
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชีย พลัส แนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ซีฟโก้ (SEAFCO)ให้ราคาหุ้นที่เหมาะสมที่ 6.30 บาท ช่วง 3Q53 SEAFCO ยังคงเดินหน้าทำงานเสาเข็มในโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงให้กับ CK โดยเครื่องจักรกว่า 60% ถูกนำไปใช้ในโครงการดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ปัญหาฝนตกชุกในช่วงเดือน ก.ค. และความไม่เพียงพอของเครื่องล้างทำความสะอาดล้อรถบรรทุก ทำให้การขนย้ายดินหน้างานเกิดความล่าช้า กระทบต่อการรับรู้รายได้ของ SEAFCO ในเดือน ก.ค.ให้น้อยกว่าที่คาดไว้
แต่สถานการณ์ดังกล่าวเริ่มดีขึ้นในเดือน ส.ค.คาดว่างวด 3Q53 SEAFCO น่าจะพลิกกลับมาทำกำไรจากการดำเนินงานได้อีกครั้งที่ระดับ 20-30 ล้านบาท แม้จะน้อยกว่าประมาณการเดิมที่ฝ่ายวิจัยคาดไว้ที่ 40 ล้านบาท แต่ก็ถือเป็นการฟื้นตัวที่ดี หลังจากที่ขาดทุนต่อเนื่องในงวด 1Q53 และ 2Q53 โดยงานเสาเข็มรถไฟฟ้าสายสีม่วงเป็นงานที่ SEAFCO รับเฉพาะค่าแรง ทำให้มี gross margin สูงกว่า 20% เทียบกับงานที่รับทั้งค่าวัสดุก่อสร้างและค่าแรงที่จะมี gross margin เฉลี่ยประมาณ 10%
นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าในปี 54 ซึ่งจะมีงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และสายสีแดง รวมถึงการเปิดตัวโครงการคอนโดมีเนียมจำนวนมากในปี 53 จะเริ่มต้นงานก่อสร้างในปี 54 ทำให้ความต้องการใช้เสาเข็มเพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่งผลดีต่อ SEAFCO ที่สามารถเลือกรับงานที่ให้ margin สูงขึ้น โดยในปีนี้ SEAFCO ลงทุนซื้อเครื่องเจาะเสาเข็มสี่เหลี่ยมเพิ่มขึ้นอีก 2 ชุด จากปัจจุบันที่มีอยู่ 9 ชุด เพื่อรองรับโอกาสทางธุรกิจที่จะมีมากขึ้นในอนาคต
ขณะที่ในปัจจุบันงานก่อสร้างที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ยังเป็นงานก่อสร้างคอนโดมีเนียมขนาดเล็ก ซึ่งไม่ได้เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของ SEAFCO ที่เน้นทำงานเสาเข็มเจาะให้กับโครงการขนาดใหญ่ ทำให้ SEAFCO ยังไม่ได้มีการเซ็นสัญญารับงานเสาเข็มเข้ามาเพิ่มมากนัก โดยมูลค่า Backlog ณ สิ้น 2Q53 ที่มีอยู่ 1.6 พันล้านบาท กว่า 1 พันล้านบาท เป็นงานก่อสร้างถนนที่ให้ gross margin เพียง 5%