(เพิ่มเติม) LHK คาดผนึก Mory ช่วยดัน"ออโต้เม็ททอล"มาร์เก็ตแชร์โต 20%ในปี 54

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday September 16, 2010 11:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประสาน อัครพงศ์พิศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.โลหะกิจ เม็ททอล(LHK)คาดว่า ส่วนแบ่งการตลาดของ บริษัท โอโต้เม็ททอล(AMT)ซึ่งเป็นบริษัทย่อย จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ในปี 54 หลังจาก Mory Industries Inc.จากญี่ปุ่นได้เข้าร่วมทุน 40%

เนื่องจากขณะนี้มีกลุ่มลูกค้ายานยนต์ที่ตั้งโรงงานอยู่ในประเทศไทยและรายที่กำลังจะมาตั้งโรงงานในประเทศไทยเริ่มติดต่อผ่าน Mory Industries Inc.มาบ้างแล้ว โดยเฉพาะการส่งท่อสแตนเลสให้กับสายการประกอบรถยนต์และมอเตอร์ไซด์รุ่นใหม่ๆที่จะออกสู่ตลาดโลกในอีก 1-2 ปีข้างหน้า ประกอบกับ แนวโน้มธุรกิจท่อเสแตนเลสทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซด์ยงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องตามการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์

"เชื่อว่าแนวโน้มธุรกิจของ LHK นับจากนี้เป็นต้นไป จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด และเปิดประตูไปสู่ธุรกิจสแตนเลสสตีลครบวงจรทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ รวมทั้งมีโอกาสที่จะขยายตลาดใหม่ๆไปยังภูมิภาคเอเชียและอื่นๆมากขึ้น" นายประสาน กล่าว

ทั้งนี้ ในงวดปี 53/54 (สิ้นสุด มี.ค.54) บริษัทคงเป้ารายได้รวมที่ 2.4 พันล้านบาท หรือเติบโต 20% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 2 พันล้านบาท โดยคาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นจากธุรกิจยานยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า

นายประสาน คาดว่ารายได้ในงวดไตรมาส 2 ปี 53/54 (ก.ค.-ก.ย.53) จะดีกว่าไตรมาสแรกที่ผ่านมาราว 10% แต่เทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนรายได้จะเติบโตสูงกว่า 10% จากการขยายชิ้นส่วนยายยนต์ และ เครื่องใช้ไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม ในเดือนก.ย.นี่ยังต้องระมัดระวังเรื่องการชุมนุมทางการเมือง

ส่วนในไตรมาส 3 ปี 53/54 (ต.ค.-ธ.ค.53) บริษัทจะบันทึกกำไรจากการขายหุ้น AMT จำนวน 2.7 ล้านบาท ทั้งนี้ กำไรสุทธิทั้งปี 54 น่าจะใกล้เคียงกับปีก่อนที่มี 101 ล้านบาท เพราะปีนี้มีการะจ่ายภาษีเงินได้

กรณีเงินบาทแข็งค่า นายประสาน กล่าววา บริษัทไม่ได้รับผลกระทบ เพราะบริษัทส่งออกต่ำกว่า 3% ขณะที่บริษัทนำเข้าวัตถุดิบ 50% อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน ขณะที่ราคาวัตถุดิบสแตนเลส ทรงตัวในขาขึ้นที่ประมาณ 100-150 บาท/กก.เนื่องจากซัพพลายมากกว่าดีมานด์

"ถ้าเงินบาทผันผวน เราก็ไม่ได้รับผลกระทบ แต่ก็เป็นความเสี่ยง แต่เราก็มีวิธีการจัดการหลายอย่าง ทั้ง heaging คุยกับลูกค้า และหาจังหวะส่งออกในตลาด หรืออาจระดมซื้อของนำเข้ามาในช่วงนี้ " นายประสานกล่าว

ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนอนาคตขยายธุรกิจไปในเวียดนาม และจีน โดยกำลังหาพันธมิตรที่ไว้ใจได้ โดยเฉพาะจีน น่าสนใจ หลังจากที่ประสบความเสำเร็จในการเข้าร่วมุนพันธมิตรอินเดีย ซึ่งคาดว่าจะ 1-3 เดือนจะเริ่มเปิดดำเนินการ ส่วนการเข้าเทคโอเวอร์บริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ในประเทศ ระหว่างนี้ยังดำเนินการอยู้ ยังไม่ได้มีข้อสรุปใดๆ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ