โบรกฯแนะลงทุนสั้น-ยาว TICON ฟื้นตามอิเล็คฯ-ยานยนต์,ขายรง.เข้า TFUND

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 20, 2010 15:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ส่วนใหญ่หนุน"ซื้อ"หุ้น บมจ.ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น(TICON)โดยบางรายปรับจาก"ถือ"เป็น"ซื้อ" หลังจากที่มีมุมมองบวกจากประเด็นสัญญาณการฟื้นตัวของกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็คทรอนิคส์และชิ้นส่วนยานยนต์ รวมทั้งสัญญาเช่า(Renewal rate)ที่เพิ่มขึ้นเป็น 90% โดยเฉพาะลูกค้าที่เคยออกไปช่วงวิกฤตเศรษฐกิจกลับมาเช่าใหม่หนุน

นอกจากนี้ การขายโรงงานให้ T-Fund ในเดือน ต.ค.นี้ จะเป็นปัจจัยหนุนที่เด่นชัดต่อผลการดำเนินงานใน 4Q/53 ให้มีกำไรสุทธิสูงสุดของปี 53 โดยคาดกำไรในปีนี้ประมาณ 763 ล้านบาทและเพิ่มขึ้น 874 ล้านบาทในปี 54 นอกจากนี้ยังเป็นหุ้นที่ปันผลประจำทุกปี คาด Div.Yield ประมาณ 7-8% ดังนั้น จึงเป็นหุ้นที่มีความน่าสนใจทั้งระยะสั้นและระยะยาว

          โบรกเกอร์             คำแนะนำ                 ราคาเป้าหมาย
          บล.ไอร่า                ซื้อ                      15.10 บาท
          บล.โกลเบล็ก             ซื้อ                      14.75 บาท
          บล.ยูไนเต็ด              ซื้อ                      14.40 บาท
          บล.กสิกรไทย             ซื้อ                      14.25 บาท
          บล.เอเชียพลัส            ซื้อ                      13.34 บาท
          บล.กรุงศรีอยุธยา          ถือ                      13.00 บาท

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม นักวิเคราะห์ บล.เอเชียพลัส แนะนำ"ซื้อ"หุ้น TICON แม้ว่าราคาในปัจจุบันจะใกล้เคียงกับราคาประเมินที่ 13.34 บาท แต่เรามีมุมมองบวกในระยะยาวด้วยการเติบโตทั้งในแง่รายได้และกำไร รวมทั้งความสามารถในการสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ ดังนั้น TICON จึงเป็นหุ้นในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมที่น่าซื้อลงทุนยาว

แต่ในระยะสั้นผลประกอบการไตรมาส 4Q53 ถือเป็นไตรมาสที่โดดเด่นที่สุด เพราะมีการขายโรงงานเข้ากองทุน TFUND จำนวน 37 โรง พื้นที่ 91,035 ตร.ม.มูลค่า 1,808.5 ล้านบาท ประเด็นดังกล่าวจะส่งต่อผลกำไรให้เพิ่มขึ้นสูงสุดในปีนี้ และคาดว่าจะมี Gross Margin จากการขายอยู่ที่ 45% และคาดการณ์กำไรปี 53 ไว้ที่ 800 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 22% YoY

ขณะที่ 2H53 ก็เชื่อว่าจะยังดีอยู่ จากที่เราเห็นแนวโน้มการขยายตัวของธุรกิจส่งออก อาทิ กลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ โลจิสติกส์ และอาหาร ซึ่งส่งผลให้แนวโน้มธุรกิจให้เช่าโรงงานและคลังสินค้าของ TICON เข้ามาต่อเนื่อง ซึ่งก็จะส่งผลดีต่อบริษัท โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันมีลูกค้าเก่าต่อสัญญาเช่า(Renewal rate)ในระดับ 90% จากระดับปกติที่ 80% และมีลูกค้าที่เคยออกไปช่วงวิกฤตเศรษฐกิจกลับมาเช่าใหม่

สำหรับตัวเลขเดือน ก.ค.53 TICON มีผู้เช่าใหม่เข้ามา 1 หมื่นกว่า ตร.ม.สอดคล้องกับที่ทางผู้บริหารมองไว้ว่าในปีนี้เป้าเพิ่มผู้เช่าโรงงานและคลังสินค้าใหม่ 1.2 แสน ตร.ม.และจากเป้าหมายดังกล่าวจึงคาดว่ารายได้ค่าเช่าจะเติบโต 5% YoY

ด้านประสิทธิภาพการทำกำไรช่วง 2H53 คาดว่า Gross Margin ค่าเช่าจะทรงตัวจาก 1H53 ที่ระดับ 78% เพราะอัตราค่าเช่ายังไม่ปรับเพิ่ม สำหรับกำไรงวด 3Q53 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น QoQ จากพื้นที่ปล่อยเช่าที่เพิ่มขึ้น และการขายโรงงานให้ลูกค้าจำนวน 1 โรง ซึ่งมีกำไรก่อนหักภาษีประมาณ 13 ล้านบาท ประกอบการจะมีรายการพิเศษจากการขายหุ้น TFUND ออกไป 3.59%

นอกจากนี้ TICON มีแผนใช้เงินลงทุน 1,500 ล้านบาท ก่อสร้างโรงงานใหม่ 5-6 หมื่นตร.ม.และคลังสินค้า 6-7 หมื่น ตร.ม.ซึ่งจะชดเชยโรงงานที่ขายเข้า TFUND โดย TICON เตรียมก่อสร้างคลังสินค้าแห่งใหม่หน้านิคมอีสเตอร์ซีบอร์ด พื้นที่ 40 ไร่ เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ในอนาคต ซึ่งแสดงให้เห็นศักยภาพและความพร้อมในการลงทุนในอนาคต

และในระยาว TICON ยังมีความน่าสนใจลงทุนต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสร้างรายได้และกำไร จากประเด็น "Shanghai TICON Investment Management ซึ่งเป็นบริษัทย่อยเพื่อดำเนินธุรกิจบริหารโรงงานและคลังสินค้าในประเทศจีน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการหาลูกค้า เราคาดว่าจะเริ่มสร้างรายได้ในปี 54 ดังนั้นเราจึงแนะนำซื้อลงทุนได้

น.ส.จิตรลดา เลขาพันธ์ นักวิเคราะห์ บล.ไอร่า กล่าวว่า TICON เติบโตโดดเด่นและต่อเนื่องในปี 54 รวมทั้งยังเป็นหุ้นที่ปันผลเป็นประจำทุกปี คาด Div.Yield ประมาณ 7% จึงเป็นหุ้นที่น่าสนใจลงทุนในระยะสั้นและระยาวด้วยความสบายใจ ประเด็นที่ช่วยหนุนในช่วงสั้นจากการขายโรงงานให้ T-Fund ในเดือน ต.ค.นี้ ซึ่งจะทำให้ผลการดำเนินงานใน 4Q/53 เติบโตโดดเด่น ขณะที่ระยะยาวจะมาจากแผนการใช้งบลงทุนในปี 54 ประมาณ 2,000 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงงานและคลังสินค้าให้เช่า พื้นที่รวมประมาณ 120,000 ตร.ม.รวมทั้งการพิจารณาขายโรงงานและคลังสินค้าให้ T-Fund และ T-Logis เพิ่ม

จากประเด็นดังกล่าวสอดคล้องกับเป้าหมายที่ทำไว้ ที่เราประเมินว่าในปี 54 จะมีการขายพื้นที่เข้า TFund/TLogis เพื่อใช้เป็นทุนในการขยายธุรกิจ คาดมูลค่าการขายพื้นที่โรงงานและคลังสินค้า มูลค่ารวมประมาณ 2,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 53 ประมาณ 10% ขณะที่พื้นที่ให้เช่าเพิ่มขึ้นในระดับเดียวกับปี 53 ประมาณ 100,000-120,000 ตร.ม.หรือเพิ่มจากประมาณ 350,000 ตรม.เป็นประมาณ 470,000 ตรม.คาดรายได้ค่าเช่า 1,035 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 7% และคาดรายได้จากธุรกิจหลัก 3,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 8%ขณะเดียวกัน TICON ยังมี Upside อีก 16%

บทวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก ระบุว่า มีมุมมองในเชิงบวกต่อหุ้น TICON และแนะ"ซื้อลงทุน"จากสัญญาณฟื้นตัวชัดเจนตั้งแต่ 2Q53 ซึ่งในฐานะที่ TICON เป็นผู้ประกอบการที่มีฐานลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็คทรอนิคส์และชิ้นส่วนยานยนต์เป็นสัดส่วนที่สูงสองอันดับแรกโดยมีสัดส่วนประมาณ 50% และ 20% ของพื้นที่ให้เช่าโดยรวมของบริษัท

ดังนั้น การที่ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์เติบโตแข็งแกร่ง โดยเฉพาะยอดผลิตรถยนต์ภายในประเทศใน 7 เดือนแรก(ม.ค.-ก.ค.53)เท่ากับ 914,766 คัน(+97%YoY)ส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์ และการผลิต Hard Disk Drive ที่มีความต้องการสูงในตลาดส่งออกส่งผลดีต่อกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิคส์จะเป็นปัจจัยบวกต่อการขยายกำลังการผลิตของลูกค้าทั้งสองกลุ่มในช่วง 2H53

นอกจากนั้น หากประเมินในแง่ของผลประกอบการก็มีแนวโน้มเติบโต และมีเงินปันผลจ่ายที่สูงสม่ำเสมอ โดยปีนี้เราคาดว่า TICON จะมีเงินปันผลประมาณ 0.8 บาทต่อหุ้น คิดเป็น Dividend yield ประมาณ 6% ซึ่งการเติบโตจะเด่นชัดสุดในไตรมาส 4Q53 ที่จะมีกำไรสุทธิกลับมาโดดเด่นสุด ไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับปกติที่มีกำไรสุทธิไตรมาสละประมาณ 70-100 ล้านบาท หลังจากที่ได้มีการขายโรงงานกองทุนอสังหาฯ(TFUND)มูลค่ารวม 1,780 ล้านบาท รวมถึงกำไรที่ได้จากการให้เช่าโรงงานด้วย

แนวโน้มปี 54 ยังคาดว่าผลประกอบการ TICON จะยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีการเติบโตของเศรษฐกิจเป็นปัจจัยหนุนหลัก คาดว่ารายได้จากค่าเช่าและการขายโรงงานเพิ่มขึ้น ปีหน้าคาดมูลค่าขายโรงงาน ซึ่งคิดเป็น 60% ของรายได้รวมจะเพิ่มขึ้นเป็น 2,000 ล้านบาท จาก 1,700 ล้านบาทในปีนี้ และกำไรสุทธิในปี 54 ประมาณ 874 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15%yoy จากปีนี้ที่เราคาดกำไรสุทธิประมาณ 763 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% จาก 653 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ