นายพีท ริมชลา กรรมการผู้จัดการ บมจ.แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่(HTECH)กล่าวว่า การที่บริษัท โตชิบา สตอเรจ ดีไวส์(ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ผลิต HDD รายใหญ่ของโลกได้รับการส่งเสริมการลงทุนให้ขยายการลงทุน 10,252.4 ล้านบาทในประเทศไทย เชื่อว่าจะทำให้ธุรกิจผลิต Cutting Tools ของบริษัทเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากโตชิบา สตอเรจ ดีไวส์ เป็นหนึ่งในลูกค้าของบริษัทฯ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้คำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น และส่งผลบวกต่อรายได้ในอนาคต
“บีโอไออนุมัติให้ โตชิบา สตอเรจ ดีไวส์ ลงทุนขยายการผลิต HARD DISK DRIVE ในประเทศไทย ถือเป็นการช่วยขยายฐานผลิตในประเทศให้เพิ่มขึ้น เพราะเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า และนักลงทุนว่าอุตสาหกรรม HARD DISK DRIVE ยังเติบโตไปได้อีกมาก และที่สำคัญยังช่วยตอกย้ำว่าบริษัทฯ จะได้รับอานิสงส์จากการเติบโตของธุรกิจตามไปด้วย เพราะฐานลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มนี้"นายพีท กล่าว
โตชิบา สตอเรจ ดีไวส์(ประเทศไทย) เข้ามาผลิต HDD ในประเทศไทยแล้วตั้งแต่ปี 50 ซึ่งตามแผนของบริษัทจะเพิ่มการผลิต HDD ขนาด 2.5 นิ้ว ประมาณ 62,200,000 ชิ้นต่อปี ป้อนให้กับตลาดในกลุ่มเครื่องคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องใช้หน่วยความจำในรถยนต์ โดยเป็นการผลิตเพื่อส่งออกให้กับลูกค้ารายใหญ่ในต่างประเทศทั้งญี่ปุ่นและยุโรป ซึ่งการขยายการลงทุนครั้งนี้จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องในประเทศเพิ่มขึ้น และสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการลงทุนด้าน HDD ที่สำคัญ
นายพีท กล่าวอีกว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้คาดว่ายอดขายยังขยายตัวต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากลูกค้าทั้งในส่วนของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมชิ้นส่วน HDD และอุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์มีการขยายตัวตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 4/53 ถือเป็นไตรมาสที่ดีที่สุด เพราะเป็นช่วงฤดูกาลขายและมีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น จึงเชื่อว่าน่าจะผลักดันให้ยอดขายในปีนี้เติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ประมาณ 350 ล้านบาท จากปีก่อนที่ทำได้ 245.33 ล้านบาท ส่วนของอัตรากำไรสุทธิน่าจะยังคงเติบโตตามเป้าที่ได้ตั้งไว้คือไม่ต่ำกว่า 26%
สำหรับความคืบหน้าในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน Halcyon Technology (Philippines) Inc. (HP) ที่บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วน 65% เพื่อประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องมือตัด (Cutting Tools) ที่เป็นPCD,CBN,Carbide และ natural diamond รวมถึง Jig & Fixture และชิ้นส่วนเครื่องจักรต่างๆ นั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ประมาณเดือนธ.ค.53 และจะรับรู้รายได้เข้ามาในปี 54 ตามแผนงานที่วางไว้
ล่าสุด Halcyon Philippines Co.Ltd.(HP) ได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าและส่งออกจากรัฐบาลฟิลิปปินส์เป็นระยะเวลา 6 ปี จากหน่วยงานส่งเสริมการลงทุนและการส่งออกของรัฐบาลฟิลิปปินส์ หรือ Philippine Economic Zone Authority(PEZA)ซึ่งจะส่งผลให้ HTECH ได้ผลตอบแทนจากการลงทุนในบริษัทย่อยมากขึ้น