ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 7.41 จุด หลัง FED ยืนยันพร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 22, 2010 06:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 ก.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความพร้อมที่จะใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่คณะกรรมการเฟดไม่ได้ประกาศใช้มาตรการใดๆที่ชัดเจนในการประชุมเมื่อวานนี้ แม้อัตราการฟื้นตัวของผลผลิตและการจ้างงานชะลอตัวลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาก็ตาม

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ขยับขึ้น 7.41 จุด หรือ 0.07% ปิดที่ 10,761.03 จุด ดัชนี S&P 500 ขยับลง 2.93 จุด หรือ 0.26% ปิดที่ 1,139.78 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 6.48 จุด หรือ 0.28% ปิดที่ 2,349.35 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กและ Nasdaq มีอยู่ราว 8.03 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วนเกือบ 2 ต่อ 1

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แรงหนุนจากการที่คณะกรรมการเฟดได้แสดงความพร้อมที่จะใช้มาตรการเพิ่มเติมหากจำเป็น เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่ระดับเป้าหมายของเฟด นอกจากนี้ คณะกรรมการเฟดยังมีมติด้วยคะแนนเสียง 8 ต่อ 1 ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ 0-0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในอีกทางหนึ่ง

ขณะเดียวกันตลาดหุ้นนิวยอร์กได้ปัจจัยบวกจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านในเดือนส.ค.ของสหรัฐพุ่งขึ้น 10.5% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 4 เดือน สู่ระดับ 598,000 ยูนิต และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 550,000 ยูนิต หลังจากขยายตัวเพียง 0.4% ในเดือนก.ค. ส่วนตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างบ้านใหม่เดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 1.8% สู่ระดับ 569,000 ยูนิต หลังจากร่วงลง 4.1% ในเดือนก.ค.

อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนและดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่คณะกรรมการเฟดไม่ได้ประกาศใช้มาตรการใดๆที่ชัดเจนในการกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมเมื่อวานนี้ รวมทั้งแถลงการณ์ภายหลังการประชุมที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงอ่อนแอ

ทั้งนี้ แถลงการณ์ของเฟดระบุว่า อัตราการฟื้นตัวของผลผลิตและการจ้างงานชะลอตัวลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ส่วนตัวเลขการใช้จ่ายภาคครัวเรือนค่อยๆปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังคงถูกจำกัดด้วยอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูง ด้านอัตราการขยายตัวของรายได้อยู่ในระดับปานกลาง ขณะประชาชนยังคงเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ยาก ส่วนตัวเลขการใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์และซอฟท์แวร์ของภาคเอกชนกำลังปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่มากเท่ากับปีที่แล้ว ในขณะที่กลุ่มนายจ้างยังคงลังเลที่จะเพิ่มการจ้างงาน นอกจากนี้ เฟดระบุว่าปริมาณการปล่อยกู้ของธนาคารพาณิชย์ยังคงหดตัวลง แม้อัตราดอกเบี้ยปรับตัวลดลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาก็ตาม

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในวอลล์สตรีทมองว่า การที่เฟดแสดงความพร้อมที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมนั้น แทบจะไม่มีผลต่อการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์ก เนื่องจากนักลงทุนต้องการเห็นการประกาศใช้มาตรการอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ การประเมินภาพรวมเศรษฐกิจที่ค่อนข้างเป็นลบของเฟดยังทำให้นักลงทุนผิดหวังที่เฟดชะลอการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ โดยก่อนหน้านี้นักลงทุนส่วนใหญ่คาดหวังว่าเฟดจะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing) หรือ QE ด้วยการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ตลาดการเงินผ่านการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยรองรับ (MBS)

หุ้นคอนอะกรา ฟู๊ดส์ อิงค์ ร่วงลง 3.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรรายไตรมาสลดลง ขณะที่หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป ซึ่งผู้ประกอบการเรือสำราญ ปิดบวก 51 เซนต์ แตะที่ 37.57 ดอลลาร์ หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรรายไตรมาสพุ่งขึ้น 22% และยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการปี 2553

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติรายงานยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค. สำนักงานคอนเฟอเรนซ์บอร์ดจะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนส.ค. ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนส.ค.และรายงานยอดขายบ้านใหม่เดือนส.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ