นายสุเมธ เลอสุมิตรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.มุ่งพัฒนา อินเตอร์เนชั่นแนล(MOONG)กล่าวว่าบริษัทมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายสินค้าภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจให้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับกับสินค้าแบรนด์ของบริษัทเอง หรือ 50:50 จากปัจจุบันที่มีสัดส่วน 20:80 โดยจะขยายความร่วมมือกับพันธมิตรเพิ่มเติม
หลังจากที่บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทำให้บริษัทมีความพร้อมในด้านต่างๆเพิ่มขึ้น โดยมีจุดแข็งในด้านช่องทางการจำหน่ายของบริษัท เข้าไปช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการภาคการผลิต ในการให้บริการด้านการกระจายสินค้าและเป็นที่ปรึกษาทางด้านการตลาดให้กับสินค้าที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SME)ที่ยังขาดความชำนาญในด้านนี้ หรือสินค้าที่เคยได้รับความนิยมจากในอดีตแล้วหยุดทำการตลาดไป
"จุดเริ่มต้นมาจากการที่เราเข้าตลาด ถ้าเราหยุดอยู่กับที่ผู้ลงทุนก็จะไม่พอใจ เราจึงต้องหาอะไรใหม่เข้าใหม่ทำให้ผู้ถือหุ้นพอใจ ซึ่งเราก็จะมีการขยายธุรกิจโดยใช้ความชำนาญด้านการจัดจำหน่ายกว่า 30 ปีมาใช้ โดยในขณะนี้ก็มีพันธมิตรเข้ามา 5 บริษัทแล้ว ซึ่งเราก็จะเป็นผู้จัดจำหน่ายให้เขา และคาดว่าภายในสิ้นปีก็จะมีเข้ามาอีกโดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจา"นายสุเมธ กล่าว
วันนี้บริษัทเปิดตัวพันธมิตร 5 ราย ที่ให้ความไว้วางใจความเชื่อมั่นรับเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าอุปโภคบริโภค ได้แก่ บริษัท ไทยมัลติพลาย จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวหน้า แบรนด์"ยูร่า" , บริษัท ฟอร์แคร์ จำกัด ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มน้ำจมูกข้าว "ฟอร์แคร์ บาลานซ์" และ ผลิตภัณฑ์กะทิจากธัญพืช ,
บริษัท พีไอพี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์ถุงลอกเท้า จากประเทศญี่ปุ่น , บริษัท ศิริมงคล อินเคอร์เทรด จำกัด ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ แป้งหอม และแป้งเย็นผสมน้ำหอม BR , บริษัท ไทยยินตัน จำกัด ผู้นำเข้ายาสีฟันน้ำ "ฮาปีก้า"
"จากแผนธุรกิจของบริษัทที่ต้องการเป็น The professional trading company เราจึงมุ่งเน้นขยายธุรกิจด้วยการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจใหม่กับองค์กรต่างๆ ในประเทศไทย ที่ยังขาดความเชี่ยวชาญการจัดจำหน่าย โดยบริษัทจะเสนอแผนงานการตลาดที่แตกต่างให้กับพันธมิตร ซึ่งเรามั่นใจว่า จากจุดแด่นที่ "มุ่งพัฒนา"มี จะเป็นส่วนหนึ่งให้ทั้ง 5 ธุรกิจ รวมถึงบริษัทเองได้เติบโตไปด้วยกัน" นายสุเมธ กล่าว
นายสุเมธ กล่าวว่า บริษัทเชื่อว่าการเข้ามาของพันธมิตรทั้ง 5 รายนี้จะช่วยให้ยอดขายของบริษัทเพิ่มขึ้น และจะส่งผลต่อกำไรของบริษัท ซึ่งคาดว่าจะเติบโตตามเป้าที่ตัวเลข 2 หลักในปีนี้ พร้อมทั้งคาดว่ายอดขายในครึ่งปีหลังจะเติบโตดีกว่าในครึ่งปีแรกด้วย
"กำไรน่าจะเติบโต 2 digit ตามเป้า แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นกี่เปอร์เซ็นเพราะว่าเศรษฐกิจยังไม่นิ่ง แต่คงดีกว่าปีที่แล้วแน่นอนเพราะมีสินค้าใหม่เข้ามาน่าจะทำให้ยอดขายดีขึ้น"นายสุเมธ กล่าว