นายอูแบร์ วิริออท กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.ไรมอนแลนด์ (RAIMON) คาดปี 53 บริษัทจะสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้เล็กน้อย จากครึ่งปีแรกที่ขาดทุนสุทธิ 254.17 ล้านบาท และในปี 52 ขาดทุน 41.7 ล้านบาท เนื่องจากขณะนี้เริ่มเห็นกำไรจากการดำเนินงานแล้ว
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายปี 53 รายได้เติบโต 15% จากปีก่อนมาที่ 3.5 พันล้านบาท ขณะที่ยอดขายคาดว่าจะทำได้ 4 พันล้านบาทสูงกว่าปีก่อน โดยในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทมียอดขายแล้ว 2.3 พันล้านบาท เติบโตจาก 100% จากช่วง 8 เดือนแรกของปี 52
"ปีนี้ทั้งปีคงเป็นบวกแต่ไม่มาก แต่มั่นใจหลังจากนี้อีก 1 ปีน่าจะเป็นกำไรดี"กรรมการผู้อำนวยการ RAIMON กล่าว
นายวิริออท กล่าวว่า ไตรมาส 2/53 บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานจริงแล้ว 32 ล้านบาทไม่รวมการตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสุญ ที่ทำให้เกิดผลขาดทุน
ปัจจุบัน บริษัทมียอดขายรอรับรู้(Backlog)จำนวน 7-8 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ปีนี้ไปจนถึงปี 55 โดยในปี 53 จะมีการโอนโครงการนอร์ทพ้อยท์ ประมาณ 3 พันล้านบาท จากยอดขายทั้งหมด 3.3 พันล้านบาท และ มียอดขาย เดอะ ริเวอร์ แล้ว 9.7 พันล้านบาท คาดว่าจะเริ่มโอนปีหน้า
นายวิริออท คาดว่า ก่อนสิ้นปี 53 บริษัทจะเปิดโครงการใหม่อีก 1 โครงการโดยอยู่ระห่างพิจารณาพื้นที่ใน กทม.หรือ พัทยา โดยบริษัทมีที่ดินเปล่าที่พัทยาอยู่ 2-3 แปลง ส่วนในกทม.อยู่ระหว่างมองหาซื้อที่ดินอยู่ แม้ว่าในปีนี้บริษัทไม่ได้ตั้งงบซื้อที่ดินไว้ แต่ก็ไม่ได้ปิดโอกาส ส่วนปีหน้าบริษัทมีแผนซื้อที่ดินแน่นอน
ทั้งนี้ โครงการต่อไปที่จะเปิดโครงการใหม่ อาจเป็นพัทยาเพราะมีที่ดินอยู่ 2 แปลง ติดกับโครงการนอร์ทพ้อยท์ ประมาณ 5-6 ไร่
"บริษัทกลับมาแข็งแรงอีกครั้งสะท้อนได้จากราคาหุ้นที่ปรับขึ้น 100% ตั้งแต่ต้นปี เป็นผลบวกจากความเชื่อมั่นว่าบริษัทแข็งแรง แข็งแกร่ง เวลานี้จึงเป็นเวลาสำคัญในการเติบโตของธุรกิจ เป็นจังหวะเวลาที่ดีได้เปิด 185 ราชดำริ" นายอูแบร์ กล่าว
วันนี้ บริษัทเปิดตัวโครงการคอนโดฯ "185 ราชดำริ" มูลค่าโครงการ 9,625 ล้านบาท ปัจจุบันมีลูกค้าเก่าซึ่งส่วนใหญ่เปํนคนไทยเข้ามจองแล้ว 20% ของมูลค่าโครงการ หรือประมาณ 1800 ล้านบาท โครงการนี้คาดสร้างเสร็จปลายปี 56 โดยจะเริ่มก่อสร้างไตรมาส 4/53 นี้
โครงการคอนโดฯ "185 ราชดำริ" สูง 35 ชั้น จำนวน 268 ยูนิต ราคาเริ่มต้นยูนิตละ 12 ล้านบาท (1 ห้อง) 61 ตร.ม. โดยคาดว่ากว่าจะสร้างเสร็จ ราคาตลาดคงปรับขึ้นไปอีก 20% กลุ่มเป้าหมายโดยรวมเป็นคนไทย แต่ต่อไปก็จะนำเสนอลูกค้าต่างประเทศทั้งยุโรป อเมริกา และภูมิภาค
ปัจจุบันกลุ่มไอเอฟเอ โฮเทลส์แอนด์รีสอร์ท (IFA HR)ถือหุ้นใน RAIMON ราว 41.08% ส่วนจะซื้อเพิ่มเป็น 49% อีกหรือไม่ โดยส่วนตัวไม่รู้ แต่ถ้าผลประกอบการออกมาดี จะเป็นโอกาสผู้ถือหุ้นใหญ่อาจจะซื้อเพิ่มเป็น 49%
ด้านนายกิตติ ตั้งศรีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารและการจัดการ RAIMON กล่าวว่า เงินบาทแข็งค่าไม่กระทบต่อการชักชวนให้ต่างชาติเข้ามาซื้อคอนโดมิเนียมในไทย เพราะการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของต่างชาติมองเป็นการลงทุนระยะยาว โดยลูกค้า 70% เป็นคนไทย ขณะที่วัตถุดิบบางส่วนบริษัทนำเข้าจากต่างประเทศทำให้วัสดุก่อสร้างถูกลง
"บาทแข็งไม่แข็งสำหรับมุมมองต่างชาติไม่ใช่ประเด็นที่จะซื้อ propertyในไทย ที่มาซื้อเพราะนิสัยใจคอคนไทย"นายกิตติ กล่าว
นายกิตติ กล่าวว่า ราคาหุ้นที่ปรับขึ้นเพราะบริษัทจะกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง เป็นปัจจัยสำคัญให้บริษัทตัดสินใจขายที่ดินบางส่วนเอาเงินกลับมา นักลงทุนคงมองมีเงินเข้ามา ซึ่งเป็นการตัดสินใจถูกต้อง และโดยรวมกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ก็ดีขึ้น ราคาหุ้นยังต่ำกว่า NAV ที่เกือบ 1 บาท
ราคาหุ้น RAIMON (เมื่อ 14.40 น.) อยู่ที่ 0.60 บาท บวก 0.03 บาท (+5.26%)